แม่ใจสลาย ลูกชายถูกเรือชนจมน้ำดับต่อหน้า

วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 07:44 น.

แม่ใจสลาย รอลูกชายพายเรืออีแปะมารับ แต่ลูกชายถูกเรืออีกลำพุ่งชนก่อนจมน้ำเสียชีวิตต่อหน้า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 23 ก.ย.67 ร.ต.ท.วสุกิตติ์ ปานรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุเรือชนกัน มีผู้สูญหาย 1 ราย บริเวณคลองบางใหญ่ ท่าน้ำวัดส้มเกลี้ยง หมู่ 2 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมชุดประดาน้ำ และทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นคลองบางใหญ่ มีความลึกประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่ประดาน้ำช่วยกันงมร่าง นายวีระวงศ์ อายุ 58 ปี โดยก่อนจะจมน้ำ นายวีระวงศ์พายเรืออีแปะข้ามฝากจากบ้านตนเองเพื่อไปรับแม่ที่โป๊ะเรือวัดส้มเกลี้ยง ระยะทางจากบ้านถึงโป๊ะเรือประมาณ 50 เมตร เมื่อพายเรือมาใกล้ถึงฝั่งประมาณ 2 เมตร ได้เกิดเหตุการณ์เรือของคู่กรณีขับมาชน ทำให้นายวีระวงศ์เสียหลักตกเรือและสูญหายในน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการค้นหา จนพบศพของนายวีระวงศ์ใกล้จุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบเรืออีแปะของผู้เสียชีวิตจอดอยู่บริเวณดังกล่าว มีร่องรอยการชนบริเวณหัวเรือด้านซ้าย นายมานิตย์ อายุ 63 ปี อาชีพขับเรือรับจ้าง คู่กรณีผู้ขับเรืออีแปะแบบวางเครื่องยนต์ เปิดเผยว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมาขณะที่ตนขับเรือกลับบ้านหลังจากไปรับหลานและภรรยาที่โรงเรียน ระหว่างทางเมื่อมาถึงท่าน้ำวัดส้มเกลี้ยง ได้มีเหตุเรือของผู้ตายพายตัดหน้าข้ามคลองเพื่อไปรับแม่ ทำให้เกิดการชน ตนพยายามเบี่ยงหลบแต่ไม่พ้น จึงเกิดการชนกลางคลอง เห็นผู้เสียชีวิตตกน้ำแต่ไม่สามารถลงไปช่วยได้เพราะอายุมากแล้ว เกรงว่าตนเองจะจมน้ำเช่นกัน จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนบริเวณรอบข้าง ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทางผู้ตายตนก็รู้จักคนแถวนี้เคยเห็นหน้าเห็นตากันทั้งนั้น    นายสุริยันต์ อายุ 56 ปี น้องเขยของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ริมคลองและเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เห็นเรือของคู่กรณีพุ่งชนเรือของนายวีระวงศ์ในระยะเพียง 1 เมตรก่อนจะถึงโป๊ะเรือ ส่งผลให้ผู้ตายตกน้ำและจมทันที เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงฝนตกและน้ำเยอะ หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งตำรวจและประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจสอบและค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการค้นหา    ด้านนางอุบล อายุ 81 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากขายของที่ตลาดพระปิ่น3 เข็นรถเข็นมาที่โป๊ะเรือวัดส้มเกลี้ยงเพื่อรอลูกชายขับเรือมารับเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ขณะที่ลูกชายพายเรือมาซึ่งหัวเรือมาถึงโป๊ะแล้วกำลังจะเข้าเทียบ กลับถึงเรือของคู่กรณีขับชน เข้าอย่างจังทำให้ลูกชายตกน้ำ ตนจึงถามคู่กรณีว่าทำไมไม่กระโดดไปช่วย ซึ่งทางคู่กรณีก็ตอบมาว่าช่วยไม่ไหว ลูกชายตนจึงเสียชีวิตและสูญหายไปในน้ำ ก่อนกู้ภัยจะมางมร่างเจอ ทางคู่กรณีก็มาขอโทษตน แต่ตนไม่รู้ว่าจะให้อภัยหรือไม่เพราะตอนนี้รู้สึกเสียใจ เพราะผู้ตายเป็นลูกชายคนโต ช่วยตนทำขนมใส่ไส้ ขนมกล้วยขายอยู่บ้านทุกวันตกเย็นก็ขับเรือมารับแบบนี้ทุกวัน ตอนนี้ตนรู้สึกเสียใจ กินข้าวไม่ได้เพราะอยู่กับลูกชายทุกวัน นางอุบล กล่าวต่อว่า วันนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังหาร่างของลูกชาย เหลนสาวอายุ 3 ขวบ ได้เล่าให้ตนฟังว่าเห็นลูกชายโบกมือลา ตอนนั้นนักประดาน้ำงมหาร่างไม่เจอ ตนเลยบนบานศาลกล่าว เบียร์ 1 ขวด เป็ด 1 ตัว หลังจากนั้นไม่นานก็พบร่างผู้ตายทันที ปกติลูกชายตนอยู่กับตน ไม่มีครอบครัว ชอบฟังธรรมมะทุกคืน ต่อไปคงทำขนมกับลูกสาวแทน เพราะลูกชายตนเสียไปแล้ว