ซอยที่ถูกลืม ไม่มีใครเหลียวแล

วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 06:25 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - อำเภอเมืองแม่สายหลังน้ำลด แม้ว่ามีหลายหน่วยงานระดมเข้าให้การช่วยเหลือชาวแม่สาย แต่ยังมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ อย่างชาวบ้านในซอยโรงไม้ผล 1 ที่รอคอยความช่วยเหลือถึง 11 วัน  ซอยที่ถูกลืม ไม่มีใครเหลียวแล ในซอยไม้โรงผล 2 หน้าศาลเจ้าพ่อคำแดง ตำบลแม่สาย ที่ยังไม่มีหน่วยงานรัฐให้เข้ามาช่วยเหลือ เพราะในซอยมีโคลนทับถมสูงเป็นเมตร  นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีกคนอย่าง จิ่วยิง ครูสอนศาสนา เล่าทั้งน้ำตา หัวซอยท้ายซอยมีเจ้าหน้าที่มาเปิดเส้นทาง แต่ในซอยของบ้านเขาเหมือนถูกลืม มองเห็นรถนำเข้ากล่องมาแจก รีบลุยโคลนไปขอไม่ทันสักครั้ง หิวจนแสบท้อง เช่นเดียวกับพี่วรรชยา ชาวบ้านในหมู่บ้านปิยะพร แม้จะเป็นหมู่บ้านหรูของชาวแม่สาย แต่เธอก็ได้รับความเดือดร้อนบ้านอยู่ท้ายซอย ต้องขับออกมาขอถุงยังชีพจากเทศบาลตำบลแม่สาย เพราะการแจกจ่ายสิของอุปโภคบริโภครวมถึงข้าวกล่องไม่ทั่วถึง และถูกชาวเมียนมาแฝงมารับของบริจาคจนไม่เหลือ เร่งฟื้นฟู ตลาดสายลมจอย ส่วนตลาดสายลมจอยสะอื้น เช้าวานนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าแม่เมาะนำเครื่องจักรเข้าเคลียร์พื้นที่ถนนสายกลางตลาด เพื่อเปิดพื้นที่ตลาด ขณะเดียวกัน ร้านค้าหลายร้าน เกินครึ่งปิดเงียบสนิทไม่มีเจ้าของร้านเข้ามาดู หรือขุดนำสินค้าไปขาย ปล่อยทิ้งจมโคลน และมีเพียงไม่กี่ร้าน ที่นำคนงานเร่งเก็บดินโคลนออกจากร้าน  นางสกุล ดอนบุญ แม่ค้าขายผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว บอกว่า สินค้าทั้งหมดที่นำมาวางขาย ต้องขุดจากโคลนมาขายทุกชิ้น วันหนึ่งขุดได้เท่าไรก็ขายเท่านั้น ขายปกติราคา 100-200 ตอนนี้ลดเหลือชิ้น 10-50 บาท ขณะเดียวกันร้านในตลาดสายลมจอยบางร้าน ที่พอมีกำลังสายป่านยาวจ้างคนงานคนละ 500 วันละ 10 คน คิดเป็นตัวเงินเฉลี่ยวันละ 10,000 บาท เพื่อช่วยเก็บกู้สินค้าในร้าน  ส่วนร้านไหนไม่มีเงินจ้างแรงงาน อย่างร้านค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า บางร้านปล่อยทิ้งร้าง เลิกขายไปเลยก็มี ท่าน ว.วชิรเมธี หวั่น 2 เดือน ฟื้นฟูไม่เสร็จ นอกจากนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี (พระเมธีวชิโรดม) พระมหาวุฒิชัย แห่งไร่เชิญตะวัน นำเจ้าหน้าที่มูลนิธิเชิญตะวัน และคณะเครือข่าย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านไม้ลุงขน ได้เอ่ยถึงสภาพที่เห็นแล้วหดหู่ใจ เหมือนกับสภาพหลังสงคราม พื้นที่ห้องโรงเรียนถูกจมอยู่ใต้โคลนไม่ต่ำกว่า 1 เมตร เมื่อเจอสภาพพื้นที่แล้ว รู้เลยว่าไม่เล็ก ไม่รู้ว่าจะใช้เวลากู้ฟื้นฟูอีก 2 เดือน โรงเรียนจะเปิดได้หรือไม่เพราะห้องเรียนจมโคลนสูงกว่า 1 เมตรทุกห้อง จึงอยากฝากถึงทุกคนช่วยกันนำดินโคลนออกจากห้องเรียน มาช่วยกันกู้บ้านกู้เมือง แจงดรามาของแจกเหลือ กองเต็มเทศบาลฯ ส่วนกรณีกระแสดรามาในโลกโซเชียล มีการโพสต์ภาพของแจกทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า กองพะเนินเทินทึกที่เทศบาลแม่สาย ทำไมยังไม่แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ทีมข่าวไปคุยกับ นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย และนายสมพล ธาตุอินจันทร์ รองปลัดเทศบาลตำบลแม่สาย ชี้แจงแบบนี้ สิ่งของที่จะนำไปแจก ถ้าหากไปแจกแล้วไม่มีประโยชน์ก็จะยังไม่แจกตอนนี้ เนื่องจากขณะนี้ในหมู่บ้านต่าง ๆ ยังเต็มด้วยโคลน ไม่มีอุปกรณ์ในการปรุงอาหารหากไปแจกทั้งหมดแล้ว ชาวบ้านก็นำไปวางเสียหายกลายเป็นขยะ การฟื้นฟูบ้านของประชาชนในพื้นที่เชียงรายคือ การฟื้นฟูบ้านเรือนมีราคาที่ต้องจ่าย ในภาวะที่ตอนนี้บางครอบครัวเรียกว่า รายได้เป็นศูนย์แต่การฟื้นฟูบ้านก็ยังต้องดำเนินการต่อไป ถ้าจะนำตะกอนดินทับถมออกจากบ้าน ไม่พ้นต้องพึ่งพาอุปกรณ์ อย่างเช่น รถแบ็กโฮ ขนาดเล็ก มีราคาว่าจ้างอยู่ที่วันละ 4,000-5,000 บาท ซึ่งก็แล้วแต่เจ้า หรือ รถไถขนาดเล็ก ก็จะมีราคาอยู่ที่วันละ 3,000 บาท ยิ่งถ้าบ้านเราไม่มีกำลังคน ก็ไม่พ้นต้องจ้างแรงงานมาช่วยขนดินทำความสะอาดบ้านเฉลี่ยค่าแรงต่อคนก็ราว ๆ วันละ 500 บาท หรือ ถ้าต้องจ้างรถแบ็กโฮ ขนาดเล็กสักคันตีว่าวันละ 4,000 บาท เทียบกับการจ้างคนก็จะได้ถึง 8 คน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า เพียงแค่ทำความสะอาดบ้านชาวบ้านในพื้นที่ก็ค่าใช้จ่ายต่อวันสูงมาก ๆ คิดเล่น ๆ ถ้าทำ 3 วันเรียกว่า เงินหลักหมื่นบาทก็ไม่เพียงพอแล้ว ในภาวะเช่นนี้ก็เรียกว่า ถ้ารัฐบาลคุมราคาไม่ได้ หรือไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ และกำลังจิตอาสา บวกรวมกับสมาชิกในบ้าน การจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ฟื้นฟูบ้านให้ใกล้ความจริงกลับมาเป็นวิมานได้อีกครั้งก็ทำกันเหนื่อยเลยทีเดียว