สาววัย 50 ปี กลับมาหาหลาน ทะเลาะกับสามี ถูกแทงกลางอกเสียชีวิต

วันที่ 23 ก.ย. 2567 เวลา 17:32 น.

สาววัย 50 ปี กลับมาหาหลาน ทะเลาะกับสามี ถูกแทงกลางอกดับหน้าห้องพัก ผัวลั่น "ยอมติดคุก" ด้านลูกสาวผู้ตายเผย ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย จนแม่ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น วันนี้ (23 ก.ย.67) พ.ต.ท.ธนเดช ปัญญาลิขิตกุล สารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ในเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานชุดสืบสวน พร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลบางเสาธง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุลักษณะเป็นห้องเช่า บริเวณระเบียงหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ น.ส.วิลามล อายุ 50 ปี สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณกลางหน้าอก จำนวน 2 แผล นอนหงายจมกองเลือด ใกล้กันพบปอกมีดซึ่งทำด้วยกระดาษ ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุเป็นลักษณะมีดทำครัว ยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ตรงหน้าห้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นจุดเกิดเหตุ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นสามีของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายสายัณห์ อายุ 49 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตาม จากการสอบถาม นางภัทรวดี อายุ 55 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ตอนแรกทั้งคู่ทะเลาะกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุใช้มีดแทงฝ่ายหญิงไป 2 ครั้งแล้วก็พูดว่า “มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง” หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ใส่เสื้อผ้าแล้วพูดว่าเขายอมติดคุก แล้วก็เดินออกไปเลย ขณะที่ น.ส.เบญจลักษณ์ อายุ 24 ปี ลูกสาวคนตาย เล่าว่า แม่และฝ่ายผู้ชายคบกันมานาน ตั้งแต่อยู่ที่เกาหลี ซึ่งตนรู้มาตลอดว่าทั้งคู่มีปัญหากัน แต่ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร โดยฝ่ายผู้ชายติดยา หลอนยา และแม่ก็หนีไปทำงานที่กรุงเทพ ไม่กลับมาอีกเลย กระทั่งเช้าวันนี้แม่พึ่งทักมาบอกว่าจะมาหาหลาน ตอนแรกลูกตนอยู่กับแม่ แต่ตนต้องเอาออกมา เพราะฝ่ายผู้ชายหลอนยา ไม่อย่างนั้นลูกตนคงไม่รอดเหมือนกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำแผนที่ และถ่ายรูปจุดเกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนั้นเจ้าหน้าที่มอบให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ ชันสูตรหาสาเหตุการตาย ก่อนจะมอบให้ญาติมารับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป