จับแล้วคนร้ายฆ่าพันธนาการหญิงวัย 62 หมกห้องพัก สารภาพ คบกันมา 7 เดือน อ้างฝ่ายหญิงเอาแต่ได้

วันที่ 21 ก.ย. 2567 เวลา 09:05 น.

จับแล้วคนร้ายฆ่าพันธนาการหญิงวัย 62 หมกห้องพัก สารภาพ คบกันมา 7 เดือน อ้างฝ่ายหญิงเอาแต่ได้ และแค้นลงทุนให้จนหมดตัวแล้ว ฝ่ายหญิงมีท่าทีตีจาก     เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 20 ก.ย.67 พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รองผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง ร.ต.อ.พงษ์นพนันท์ รุ่งโรจน์ รองสว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันจับกุมนายฐานันดร์ อายุ 62 ปี ชาว ต.แควอ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าพันธนาการนางดารุณี อายุ 53 ปี หมกห้องพักที่โครงการบ้านเอื้ออาทร กม.44 ตึกที่ 16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  โดยจับกุมได้ที่ริมถนนในเขต อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์  พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีน้ำเงินดำ    สอบสวนเบื้องต้น นายฐานันดร์ ผู้ต้องหา ใสารภาพว่า ตนเองคบกับผู้ตายมาได้ 7 เดือน ขายของหรือทำอะไรตนเองก็ลงทุนให้ ตนเองเอาเพียงทุนคืน ส่วนกำไรให้ผู้ตายทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ทุนคืน และยังวางแผนการเก็บเงินให้ผู้ตายใหม่และลงทุนให้ใหม่ จากนั้นผ่านไปไม่กี่วัน ผู้ตายก็บอกกับตนเองว่า ป้าข้างบ้านโทรศัพท์มา ว่าแม่ป่วยหนัก ต้องกลับไปดูแลแม่ ตนเองก็บอกว่าดีแล้วคนเรารักพ่อแม่ แต่การไปดูแลพ่อแม่นั้นก็ควรจะเอาแต่เสื้อผ้าไป แต่เขาเอาของไปหมดเลย ซึ่งของที่จะเอาไปนั้น อันไหนที่ตนเองให้ก็เอาไป อันไหนที่ตนเองไม่ให้ก็ไม่ต้องเอาไป แต่ผู้เสียชีวิตก็ขโมยของไป จากนั้นก็ติดต่อผู้เสียชีวิตไม่ได้เลยระยะเวลา 4 เดือน แต่รู้ชื่อจริงว่าชื่อนางดารุณี และตนเองก็ตามหาเขาจนเจอ ซึ่งนางดารุณีหนีตนเองมา และรู้ความจริงว่า ไม่ได้เฝ้าแม่ ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นปีแล้ว แสดงว่าโกหก  จากนั้นนางดารุณี ยังโทรมาขอยืมเงินตนเองอีกเรื่อยมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้ติดต่อไม่ได้ ตนเองไม่รู้เลยว่า นางดารุณี อยู่ที่ไหน และคิดมาตลอดว่าจะหานางดารุณีเจอได้อย่างไร จนกระทั่ง ไปแจ้งความที่ สภ.อัมพวาว่า นางดารุณีลักทรัพย์ไป เพื่อที่อยากเจอตัวเขาเท่านั้น จนวันที่ 15 ก.ย.67 นัดเจอกันที่ สภ.อัมพวา เพื่อจะถอนแจ้งความ แต่ร้อยเวรที่รับคดีไปเรียนต่อ ยังไม่ทราบว่าเขาโอนคดีไปให้ใคร วันนั้นตนเองให้นางดารุณีนั่งรถมา โดยนางดารุณี บอกว่าจ้างรถมา 1 พันบาท โดยให้รถที่ว่าจ้างมาไปจอดที่วัดแห่งหนึ่ง ตรงข้ามโรงพัก ซึ่งนางดารุณีไม่รู้ว่าตนเองจะมาด้วย เมื่อไม่เจอร้อยเวร ก็พากันกลับมา ซึ่งตนเองก็ขึ้นรถกลับมาด้วย แต่ทางผู้ตายบอกว่า ขอเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งก็เป็นห้องน้ำวัด ขณะที่ นางดารุณี ไปห้องน้ำ ได้นำโทรศัพท์ไปด้วย ต่อมา คนขับรถก็รับโทรศัพท์ทางไลน์ ซึ่งตนเองมองเห็นว่าเป็นรูปของนางดารุณี และตนเองก็ได้ยินว่า ให้ลงจากรถไปคุยข้างนอก ซึ่งตนเองคิดว่าเขาเป็นชู้กันหรือเปล่า แต่ตนเองก็ยังไม่คิดอะไร ซึ่งตนเองบอกกับนางดารุณีว่า เดี๋ยวมีเซอร์ไพรส์ ถ้าให้ไปด้วย โดยตนเองจะซื้อทองให้ 1 บาท เมื่อถึงห้องพักที่เกิดเหตุในวันที่ 15 กันยายน 2567 นางดารุณี ไม่ยอมให้ตนเองออกจากห้อง เมื่อมีโทรศัพท์มานางดารุณีก็จะออกไปรับข้างนอก ซึ่งมันแปลก  จากนั้นวันที่16 กันยายน ตนเองถูกหวยก็ได้ให้เงินเขาไป 1 หมื่นบาท และก็พากันไปกินและซื้อของหมดไปเกือบ 1 หมื่นบาท โดยที่ตนเองก็ยังระแวงว่านางดารุณี จะคบคนอื่น และวันที่ 18 กันยายน2567 ตนเองต้องไปตรวจสุขภาพ และก็ไม่ได้ทะเลาะกันเลย เมื่อนอนอยู่ด้วย ตนเองก็บอกกับผู้ตายว่า “แมวพี่ขออย่างหนึ่งได้ไหมรับปากได้ไหมจะไม่มีอีก เดือนร้อนอะไรก็โทรศัพท์มา” ซึ่งเขาก็ไม่รับปาก ตนเองจึงโมโห ขณะที่เขานอนคว่ำหน้าอยู่ มองไปเห็นเตารีด จึงได้ตัดสายไปเตารีดมามัดคอ โดยที่ตนเองนั่งคล่อมเขาอยู่รัดจนแน่นและก็บอกกับเขาว่าที่เธอตายนั้น เพราะเธอเอง จากนั้นก็ได้พันธนาการแขนขาอีก 1 รอบ ซึ่งตนเองก็ยังไม่มั่นใจว่านางดารุณี จะตายที่เอาสายไฟมามัดมือมัดเท้านั้นเกรงว่าเขาอาจจะสลบไป และใช้มือมาแกะสายเตารีดได้ กระทั่งเวลา 02.00น.วันที่ 17 กันยายน ตนเองได้ขึ้นแท็กซี่ที่ผู้ตายเป็นคนนัดมาเพื่อที่จะให้ตนเองกลับบ้าน ส่วนโทรศัพท์ของผู้ตายนั้นก็อยู่ในถังน้ำในห้องน้ำ เพราะจะมีคนโทรศัพท์เขามาตลอดเวลา เมื่อถึงสมุทรสาคร ตนเองก็ไปเอารถจักรยานยนต์ หนีไปที่ราชบุรี จากนั้นก็ขับไปเรื่อยจนถึง จ.นครสวรรค์ ก็ถูกชุดสืบสวน สภ.คลองหลวงจับกุมตัว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้มีการแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา