สธ. กำชับจังหวัดเสี่ยงฝนตกหนัก เฝ้าระวังช่วงสุดสัปดาห์นี้

วันที่ 20 ก.ย. 2567 เวลา 16:36 น.

สธ. กำชับจังหวัดเสี่ยงฝนตกหนัก เฝ้าระวังช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทีมดูแลสุขภาพจิต พบ ปชช. ที่บ้านน้ำท่วม มีภาวะเครียดสูง 589 คน ต้องส่งพบแพทย์ 148 คน วันนี้ (20 ก.ย.67)  นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวภายหลังประชุมทางไกลเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. - 20 ก.ย.67 สถานการณ์ลดลงเหลือ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา นครนายก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม อุดรธานี ภูเก็ต สตูล และตรัง มีประชาชนได้รับผลกระทบ 63 อำเภอ รวม 9,949 ครัวเรือน เสียชีวิตสะสม 47 ราย บาดเจ็บ 816 คน สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ รพ.สต.ในจังหวัดอุดรธานี รวมเป็น 67 แห่ง แต่ทั้งหมดยังเปิดบริการได้ตามปกติ “ทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2,287 ทีม ดูแลประชาชนรวม 134,864 คน ให้บริการด้านสุขภาพจิต 26,318 คน  พบมีภาวะเครียดสูง 589 คน ต้องส่งพบแพทย์ 148 คน ให้การดูแลกลุ่มเปราะบางรวม 20,443 คน” นพ.วีรวุฒิ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์พบว่า 9 จังหวัดที่เสี่ยงฝนสะสมสูงและเสี่ยงต่อดินโคลนถล่มวันที่ 20-22 ก.ย. 67 ได้แก่ อุบลราชธานี พิษณุโลก ตราด สุรินทร์ เลย นครราชสีมา ศรีสะเกษ สกลนคร และอุตรดิตถ์ ได้กำชับให้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ประเมินความเสี่ยงของสถานบริการ เตรียมแผนการอพยพเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย สำรวจและติดตามปริมาณยาและเวชภัณฑ์ต่อเนื่อง ซึ่งภาพรวมยังเพียงพอ มีการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบภัยแล้ว 134,861 ชุด ส่งยาสมุนไพรรวม 45,984 ชุด ได้แก่ ยาน้ำกัดเท้า 25,484 ขวด ยานวด 700 ขวด  ยากันยุง 9,750 ขวด ยาสมุนไพร 7 รายการ 3,250 ชุด ยาเบญจชื่นจิต  200 กระปุก และยาน้ำกัดเท้าบาทาพิทักษ์ 6,600 กระปุก ส่วนที่ประชุมวันนี้มีการติดตามสถานการณ์ใน จ.อุบลราชธานี พบว่า มีอำเภอเสี่ยงจากแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง 5 อำเภอ 40 หมู่บ้าน คือ เขมราฐ นาตาล โพธิ์ไทร ศรีเมืองใหม่ และโขงเจียม ได้วางระบบและมาตรการรองรับแล้ว โดยจัดระบบส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางบกและทางอากาศ พร้อมช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่อยู่ติดริมน้ำโขงจำนวน 2,393 ราย นอกจากนี้ ยังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต และตรัง ซึ่งทั้งหมดมีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงและเตรียมความพร้อมทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ สำรองยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงสื่อสารความเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชน