อุปกรณ์สื่อสารระเบิดระลอกที่ 2 ในเลบานอน

วันที่ 19 ก.ย. 2567 เวลา 13:43 น.

"วอล์กี-ทอล์กกี" ที่สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้งานอยู่เกิดระเบิดขึ้น ในเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน นับเป็นการโจมตีอุปกรณ์สื่อสารของกลุ่มดังกล่าวเป็นระลอกที่ 2 ส่วนผู้เสียชีวิตจากเหตุ "เพจเจอร์" ระเบิดก่อนหน้านี้ เพิ่มเป็น 12 คนแล้ว วานนี้ (18 ก.ย.) เกิดเหตุ "วอล์กี-ทอล์กกี" (Walkie-talkie) ที่ใช้งานโดยกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) เกิดระเบิดขึ้นหลายจุดพร้อมกัน ทั้งในกรุงเบรุต, เบกาวัลเลย์ (Bekaa Valley) และพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งถือเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้ง ยังมีรายงานเหตุระเบิดเกิดขึ้นระหว่างการจัดงานศพ ให้กับนักรบกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่เสียชีวิตจากเหตุเพจเจอร์ระเบิดก่อนหน้านี้ด้วย โดยเหตุระเบิดล่าสุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน บาดเจ็บอีกกว่า 450 คน ส่วนผู้เสียชีวิตจากเหตุเพจเจอร์ระเบิดเพิ่มขึ้นเป็น 12 คนแล้ว และบาดเจ็บเกือบ 3,000 คน นอกจากนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ ยังทำให้ชาวเลบานอนหวาดกลัวการใช้งานอุปรณ์ที่มีแบตเตอร์รีด้วย ด้าน "ไอคอม" (Icom) บริษัทผลิตวิทยุสื่อสารของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ว่ากำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากมีรายงานว่า "วอล์กี-ทอล์กกี" มีสัญลักษณ์ ICOM และคำว่า "เมดอินเจแปน" ติดอยู่บนอุปกรณ์ที่เกิดระเบิดขึ้น ทั้งนี้ ทางการอิสราเอล ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้ แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงระดับสูงของเลบานอนว่า "มอสสาด" (Mossad) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งนี้ รวมทั้งการฝังระเบิดขนาดเล็กไว้ในเพจเจอร์ 5,000 เครื่อง ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์สั่งซื้อของบริษัทไต้หวัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ซึ่งบริษัท "โกลด์ อพอลโล" (Gold Apollo) ของไต้หวัน ระบุว่าเพจเจอร์ดังกล่าวถูกผลิตขึ้นโดยบริษัทในประเทศยุโรปที่มีลิขสิทธิ์ใช้ตรายี่ห้อของไต้หวัน ด้านเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการถูกละเมิดด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกลุ่ม ขณะที่ สหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด พร้อมระบุว่ากำลังเร่งดำเนินการทางการทูต เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแยังทวีความรุนแรงขึ้น