รวบแล้วจอมโจรขโมยระฆังทองเหลือง 5 วัด อ้างรายได้น้อย กลัวบาปแต่จำใจทำ เอาไปผ่าขายร้านรับซื้อของเก่า กก. ละ 100 บาท หาเงินเลี้ยงลูกน้อย

วันที่ 18 ก.ย. 2567 เวลา 14:28 น.

จากกรณีมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน คาดว่าใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ตระเวนก่อเหตุลักขโมยระฆังทองเหลืองตามวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ หายไปแล้ว 5 วัด ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.นางรอง และ อ.ชำนิ โดยก่อเหตุทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน อาศัยช่วงที่พระสงฆ์ออกไปบิณฑบาต และสวดอภิธรรมศพญาติโยมที่เสียชีวิต ไปลงมือก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับวัด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง, สภ.เฉลิมพระเกียรติ และ สภ.ชำนิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง และ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ร่วมกันจับกุม นายอัมภรณ์ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ โดยสามารถจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง พร้อมของกลางรถยนต์กระบะ สีดำ หมายเลขทะเบียน บห 3695 บุรีรัมย์ ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ระฆังทองเหลืองเก่าแก่ตามวัดต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ รวม 5 วัด จากนั้นได้นำตัวนายอัมภรณ์ไปสอบสวน และดำเนินคดีในท้องที่ที่ก่อเหตุ จากการสอบถาม นายอัมภรณ์ ให้การว่า มีอาชีพตระเวนหาของเก่าตามบ้านเรือนและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อคัดแยกและนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า จึงอาศัยช่วงที่ตระเวนออกไปหาเก็บของเก่าตามสถานที่ต่าง ๆ ไปก่อเหตุขโมยระฆังทองเหลืองตามวัดในช่วงที่พระออกไปบิณฑบาต และไม่อยู่วัด ได้ระฆังไปทั้งหมด 6 ใบ จากจำนวน 5 วัด คือช่วงเดือน ก.ค. 67 ที่วัดป่าโพธิ์แก้ว อ.ชำนิ ได้ระฆังไป 1 ใบ จากนั้นวันที่ 18 ส.ค. 67 ขโมยที่วัดบ้านสี่เหลี่ยม อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ระฆังไป 1 ใบ ต่อมาวันที่ 24 ส.ค. 67 ขโมยที่วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง ได้ระฆังไป 1 ใบ กระทั่งวันที่ 2 ก.ย. 67 ขโมยที่วัดบ้านถนน อ.นางรอง ได้ระฆังไป 1 ใบ และล่าสุดวันที่ 15 ก.ย. 67 ขโมยที่วัดหนองโสน อ.นางรอง ได้ระฆังไป 2 ใบ หลังจากได้ระฆังไปแล้ว ก็จะนำไปตัดเป็นแผ่น ก่อนนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ใน อ.หนองกกี่ กิโลกรัมละ 100 บาท โดยระฆัง 1 ใบ เมื่อชำแหละแล้วนำไปขายก็จะได้เงินใบละ 2,000 – 3,000 บาทขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะตนทำงานคนเดียว หาเงินไม่ทัน เนื่องจากมีภรรยาและลูกน้อยที่มีอายุเพียง 1 ขวบเศษ ต้องเลี้ยงดู บางส่วนก็เอาไปจ่ายค่างวดรถด้วย เมื่อถามว่าไปขโมยของในวัดไม่กลัวบาปเหรอ นายอัมภรณ์ ตอบว่า กลัว แต่จำใจต้องทำ เพราะรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา โดยจะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป