ปู่วัย 87 ปี นำเงิน 2 แสนขึ้นโรงพัก ถามตำรวจทำผิดอะไร ก่อนรู้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก

วันที่ 11 ก.ย. 2567 เวลา 12:23 น.

รอดหวุดหวิด ปู่วัย 87 ปี หอบเงิน 2 แสนขึ้นโรงพัก เตรียมโอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถามตำรวจทำผิดอะไรต้องตรวจสอบ ก่อนรู้ความจริงถูกมิจฉาชีพหลอก วันนี้ (11 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายพิมาศ หรือเล็ก อายุ 87 ปี อดีตเจ้าหน้าที่สื่อสารระดับ 6 สำนักงานโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์  สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมนำเงินสดจำนวน 200,000 บาท มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พร้อมถามกับเจ้าหน้าที่ว่า บัญชีตนเองผิดอะไร ทำไมต้องให้โอนเงินส่งเงินให้ตรวจทั้ง ๆ ที่ตนไม่เคยมีบัญชีพัวพันสีเทาหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทำไมถึงต้องโทรมาให้ตนส่งเงินไปให้ตรวจสอบ ทาง พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ จึงอธิบายเหตุผลและชี้แจงกับนายพิมาศว่า น่าจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกลวง อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด การที่นายพิมาศมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าโชคดี หากโอนเงินไปแล้ว รับรองว่าสูญเงินอย่างแน่นอน และแนะนำให้บล็อกเบอร์มือถือเบอร์นี้ อย่าได้พูดคุยติดต่อหรือเชื่อคำพูด ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งนายพิมาศถึงกับดีใจที่ยังไม่เสียท่าให้กับมิจฉาชีพ ถึงกับยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยตักเตือนให้ในครั้งนี้ นายพิมาศ หรือปู่เล็ก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้มีชายคนหนึ่งโทรเข้ามาหาตน แจ้งว่า ตนมีบัญชีพัวพันกับธุรกิจสีเทา ต้องส่งไปให้เขาตรวจสอบ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จาก ปปง. กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรเข้ามาติดต่อและชี้แจงข้อระเบียบ หากเงินในบัญชีตรวจสอบแล้วถูกต้องก็จะส่งคืนให้ และมีค่าเสียเวลา ค่าชดเชยกลับมาให้ด้วย ทางคนที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บอกตนมีทรัพย์สินเท่าไหร่ให้เบิกมา หากพบว่าเป็นเงินสุจริตก็จะส่งคืนให้ในภายหลัง ตนจึงหลงเชื่อสนิทใจ รีบเอาสร้อยคอทองคำ 3 บาท เลสข้อมือ 2 บาทไปขาย ได้เงินมา 200,000 บาท และจะนำไปเข้าบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามที่เขาแนะนำมา เพราะตนเองไม่ได้เล่นไลน์ โอนเงินทางบัญชีไม่เป็น โชคดีที่เจ้าหน้าที่แนะนำไม่อย่างนั้นคงสูญเงิน 200,000 บาทนี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญตนยังมีพันธบัตรที่ซื้อไว้อีกหลายสิบล้าน เตรียมจะถอนออกมาเป็นเงินสดโอนไปให้มิจฉาชีพ ดีที่ไหวตัวทันอย่างเฉียดฉิว ตอนที่จะมาโรงพักคิดอย่างเดียวว่าถ้าผิดจริง ๆก็ให้มันติดคุกไป เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ก็อยากเอาเงิน เอาสมุดบัญชีมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย โชคดีที่มารู้ความจริงเสียก่อน ส่วนเงิน 200,000 บาท เดี๋ยวจะกลับไปซื้อทองใหม่ และจะบล็อกเบอร์แก๊งคอนเซ็นเตอร์นี้ไป ไม่รับสายพูดคุยด้วยแล้ว ไม่เช่นนั้นคงตกเป็นเหยื่อแน่