หนุ่มชาวจีนร้อง ภรรยาหลอกหย่า-ย้ายทรัพย์สิน
วันที่ 11 ก.ย. 2567 เวลา 11:12 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีนี้เป็นเรื่องสามีชาวจีนกับภรรยาชาวไทย จดทะเบียนอยู่กินกันถูกต้อง นาน 7 ปี จนระยะหลังภรรยาเริ่มเปลี่ยนไป สามีจึงตามสืบจนทราบว่าภรรยานอกใจ และแอบนำทรัพย์สินที่ซื้อและสร้างร่วมกัน (ชื่อภรรยา)ไปใช้ร่วมกับชายอื่น จนเกิดการทะเลาะกัน นี่เป็นภาพวงจรปิดขณะ นายเคน ชาวจีน ผู้เสียหาย มีปากเสียงกับภรรยาชาวไทย ขณะที่ภรรยากำลังขนสิ่งของมีค่าออกจากบ้าน นำไปใส่ท้ายรถยนต์ เหตุเกิดวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านผู้เสียหาย ระหว่างที่มีปากเสียง อยู่ ๆ มีชายคนหนึ่งขับรถหรูเข้ามา แล้วช่วยภรรยาผู้เสียหาย ขนสิ่งของมีค่าขึ้นรถ นายเคน เห็นจึงเข้าไปพูดคุย แต่ถูกชายคนนี้ขับรถชนที่บริเวณขาได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมเล่าที่มาที่ไป บอกว่า ภรรยาและตัวเองจดทะเบียนสมรสถูกต้อง และอยู่กินด้วยกันมา 7 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน กระทั่งช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังผู้เสียหายกลับจากประเทศจีน พบว่าพฤติกรรมภรรยาเปลี่ยนไป ไม่ค่อยกลับบ้าน และเริ่มขนสิ่งของมีค่า เช่น เงินสดในตู้เซฟ 13 ล้านบาท และนาฬิกาหรู ที่ซื้อร่วมกันมาออกไปจากบ้าน นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาของผู้เสียหายยังมาขอหย่า อ้างให้เหตุผลว่าจะไปประกอบอาชีพสายการเมือง ไม่อยากให้มีภาระผูกพัน แต่ในทางพฤตินัยก็ยังคงสถานะสามี-ภรรยาเหมือนเดิม นายเคน ยอมรับว่ารู้สึกสงสัย แต่ไม่กล้าถาม เพราะทุกครั้งที่มีปากเสียงกันจะถูกข่มขู่ว่าจะไล่ตัวเอง และแม่กลับประเทศจีน ทำให้ตัวเอง และแม่รู้วิตกกังวล เพราะทรัพย์สินที่หามาเป็นชื่อของภรรยาทั้งหมด ด้าน นายษิทรา บอกว่า สรุปแล้วทรัพย์สินที่ฝ่ายหญิงเอาไป มีมูลค่ารวม ๆ ไม่ต่ำว่า 100 ล้านบาท ทั้งเงินสดกว่า 20 ล้านบาท, นาฬิกาหรู, โฉนดที่ดิน, เครื่องประดับ และเงินลงทุนบริษัท หลังจากนี้จะเริ่มดำเนินการสืบทรัพย์ พร้อมกับฟ้องร้องเรียกคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหาย และจะพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายหญิง และชายคนรักใหม่ ฐานลักทรัพย์, ร่วมกันลักทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์ด้วย