น้องชายฉุนขาด จ่อยิงหัวพี่สาวหลังพิธีสวดศพแม่กลางศาลาวัด แค้นปมฮุบมรดกที่ดิน
วันที่ 11 ก.ย. 2567 เวลา 09:59 น.
จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 67 เวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.บัญชา มีบุญ ผกก.สภ.ศรีบรรพต พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปัญญา สงนวล สว.(สอบสวน) สภ.ศรีบรรพต เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีบรรพต และเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีบรรพต เข้าตรวจสอบเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิตบริเวณศาลาคู่เมรุ วัดตะแพน ม.2 ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบร่างของ นางนิตยา อายุ 67 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าบริเวณศีรษะ 3 นัด ตกจากเก้าอี้หน้าหีบศพของ นางกลิ่น อายุ 99 ปี ผู้เป็นแม่ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตทันที บริเวณใกล้กันเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนจำนวน 3 หัว พร้อมเศษตะกั่วกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายทวีศักดิ์ อายุ 60 ปี เป็นน้องชายของผู้เสียชีวิต โดยมีเรื่องระหองระแหงกันมานาน ทั้งเรื่องที่ดินมรดกที่พ่อแม่แบ่งให้ แต่ผู้เสียชีวิตเป็นคนฮุบไว้ทั้งหมด ทั้งที่ผู้เป็นแม่สั่งเสียไว้ก่อนเสียชีวิต ว่าให้แบ่งกันสองคนจำนวน 18 ไร่ หลังจากนางกลิ่น ผู้เป็นแม่เสียชีวิตได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดดังกล่าว โดยการจัดงานศพในครั้งนี้ผู้เสียชีวิตในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นผู้ดูแลแม่จะจัดงานงานศพแต่เพียงผู้เดียว ไม่ยอมให้น้อง ๆมามีส่วนเกี่ยวข้อง ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (11 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ที่วัดตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง อีกครั้ง โดยพบว่าในช่วงเช้า ยังไม่มีใครมาร่วมในงานศพ ซึ่งญาติและลูก ๆที่เหลือยังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมงานด้านนอก ขณะผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามน้องชายของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต บอกว่า มูลเหตุที่มีความขัดแย้งกันของ พี่ ๆ ทั้งสองคนนั้น มาจากเรื่องที่ดินมรดก ที่แม่แบ่งให้พี่ทั้งสองคน แต่พี่สาวไม่ยอมแบ่งให้น้อง โดยบอกว่าก่อนถูกยิงเสียชีวิตว่า เป็นคนดูแลแม่ด้วยตัวเอง เลยไม่ยอมแบ่งให้น้องชาย จนเกิดการฟ้องร้องต่อศาลขึ้นก่อนหน้านี้ และยอมรับว่าเรื่องที่ดินแม่เป็นคนลำเอียง เพราะที่ดิน 18 ไร่ ลูกมี 4 คน แต่แบ่งให้ 2 คน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร พอแม่เสียชีวิต พี่สาวก็ไม่ให้น้องจัดการเรื่องเงินทุนจ่ายงานศพ โดยลงทุนเพียงคนเดียว ทำให้พี่ชายที่เป็นผู้ก่อเหตุไม่พอใจ จนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศพของผู้ถูกยิงเสียชีวิต เบื้องตนทางญาติยังไม่นำศพมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนา เนื่องจากรอให้มีการเผาศพผู้เป็นแม่ก่อน จึงฝากศพไว้ที่โรงพยาบาล หลังจากการชันสูตรบาดแผลเสร็จ ด้านนางสุพร อายุ 63 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังสามีเข้ามอบตัว ก็ไม่พูดอะไร บอกแค่ว่ามันจบแล้ว และขอรับกรรมเอง ซึ่งตนเองก็ไม่อยากประกันตัวสามี เพราะเกรงออกมาจะเก็บอารมณ์และความรู้สึกไม่ได้ แต่ตนยังเป็นห่วงสามี กินอาหารก็ไม่ได้ เนื่องจากเมื่อวานไม่ได้เอาฟันปลอมไปด้วย ตนขับรถไม่เป็น จึงขอฝากลูก ๆ ผู้สื่อข่าว เอาฟันปลอมไปให้ที่ สภ.ศรีบรรพต ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.ศรีบรรพต เพื่อนำฟันปลอมให้ผู้ก่อเหตุ พร้อมสอบถามเกี่ยวกับอาการ โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า เมื่อคืนผู้ก่อเหตุเครียด ตำรวจต้องคอยปลอบใจตลอดเวลา เพราะเกรงว่าจะติดสั้น