อายุ 29 ปี ติดเชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมา ป่วยหนักกว่าโควิด ไข้หวัดใหญ่
วันที่ 9 ก.ย. 2567 เวลา 09:41 น.
หมอมนูญเจอเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี ไม่มีประวัติโรคประจำตัว ติดเชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมา นอน รพ. 9 วัน ไข้สูง 40.5 องศา คนไข้บอกอาการหนักกว่าตอนป่วยโควิด ไข้ไหวัดใหญ่ วันนี้ (9 ก.ย.67) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก ยกเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี ให้ประวัติว่าก่อนมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เริ่มมีไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส ปวดหัว ปวดตัว อ่อนเพลีย และไอมาก คนไข้มาโรงพยาบาล วันที่ 25 ส.ค.67 มีเหนื่อยบ้าง กินอาหารได้น้อย ไม่เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก ปกติผู้ป่วยท่านี้ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่มีโรคประจำตัว เคยป่วยเป็นโรคโควิด 2 ครั้ง และไข้หวัดใหญ่ 1 ครั้ง เมื่อปีที่แล้ว ผลตรวจร่างกาย มีไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจน 98 % ฟังปอดปกติ เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่าง แยงจมูกส่งตรวจ PCR รหัสพันธุกรรม 22 สายพันธุ์ พบเชื้อแบคทีเรีย Mycoplasma pneumoniae เจาะเลือดตรวจพบว่า เม็ดเลือดขาวปกติ แพทย์วินิจฉัยว่า ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ไมโคพลาสมา Mycoplasma pneumonia ให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน azithromycin และ moxifloxacin ผู้ป่วยดีขึ้นช้า ๆ ไข้ลอยอยู่ 5 วัน กว่าไข้จะลง ต้องให้น้ำเกลือ เพราะกินอาหารได้น้อยมาก ต่อมาอาการไอค่อย ๆ ลดลง ไม่เจ็บหน้าอก ไม่เหนื่อย แพทย์ติดตาม 9 วันต่อมา เอกซเรย์ปอดฝ้าขาวด้านล่างดีขึ้นมาก “ผู้ป่วยรายนี้อายุยังน้อย ปกติแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว แต่เมื่อติดเชื้อ Mycoplasma ครั้งนี้นอนรักษาใน รพ. 9 วัน อาการหนักกว่าตอนป่วยเป็นโรคโควิดและไข้หวัดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว” หมอมนูญให้ข้อมูลด้วยว่า เชื้อไมโคพลาสมาเป็นแบคทีเรียขนาดเล็ก มีอยู่ในธรรมชาติ สามารถติดต่อจากคนสู่คน เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง พบได้ในเด็กโตและผู้ใหญ่ บางคนทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบอย่างผู้ป่วยรายนี้ โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน รักษาหายด้วยยาปฏิชีวนะ