ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเตรียมตัว "สทนช." เผยต้องระบายน้ำเพิ่ม อั้นไว้สูงสุดไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที

วันที่ 5 ก.ย. 2567 เวลา 16:07 น.

มวลน้ำจ่อ #เขื่อนเจ้าพระยา ต้องเร่งระบายออกซ้ายขวา ก่อนปล่อยลงท้ายเขื่อน "สทนช" อั้นไว้ไม่ให้เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที แจ้งชาวบ้านเร่งยกของขึ้นที่สูง ตั้งศูนย์พักพิงพร้อมให้อพยพ 9-10 ก.ย.นี้ วันนี้ (5ก.ย.67) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งสถานการณ์น้ำล่าสุด โดยเฉพาะน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาไหลอยู่ในระดับ 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ ระบายออกก้านข้างซ้ายขวา 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ประมาณ 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มจะระบายเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีภายใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากมีปริมาณน้ำ ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยามี แนวโน้มระดับน้ำหลาก 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงระหว่างวันที่ 9-10 กันยายนนี้ และปริมาณน้ำเหล่านี้จะไหลมาบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ผนวกกับน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังมาเติม ดังนั้น ปริมาณน้ำในช่วงดังกล่าวเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอาจสูงถึงกว่า  2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะบริหารจัดการน้ำออกซ้ายขวา  200-300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ทำให้แนวโน้มการระบายน้ำในท้ายเขื่อนเจ้าพระยาน่าจะไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้น ชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน และ พื้นที่นอกคั้นกั้นน้ำ จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี อาจได้รับผลกระทบ ต้องเร่งยกของขึ้นที่สูง และ เสริมคันกั้นน้ำด้วยกระสอบทราย โดยทางจังหวัดจะจัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อเตรียมให้ประชาชนที่ไม่สามารถอยู่อาศัยในบ้านได้ ให้เข้าไปอยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ สทนช. มีมติตั้งศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้า เพื่อบริหารจัดการน้ำพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ที่โครงการส่งน้ำบำรุงรักษาบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไป เนื่องจากประเมินว่า พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตอนล่างจะมีปริมาณน้ำมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง