แพทองธาร เผยลงนามวันนี้ ทูลเกล้าฯ โผ ครม.
วันที่ 3 ก.ย. 2567 เวลา 16:41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นางสาวแพทองธาร เผยเตรียมลงนามรายชื่อคณะรัฐมนตรีวันนี้ เพื่อเตรียมทูลเกล้าฯ พร้อมบอกรัฐบาลไม่มีฮันนีมูล พร้อมลุยงานทันที "แพทองธาร" เผยลงนามวันนี้ ทูลเกล้าฯ โผ ครม. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า วันนี้เตรียมลงนามรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพื่อนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ ตามกระบวนการ ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ โดยยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีเวลาฮันนีมูนแล้ว เพราะต้องเข้ามาทำงานต่อจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยวางไทม์ไลน์ว่า เมื่อแถลงนโยบายเสร็จแล้ว เข้าไป จะทำอะไรก่อนหลังบ้าง คุยกับทีมไว้แล้ว "แพทองธาร" ย้ำเดินหน้าต่อ "ดิจิทัลวอลเล็ต" นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่ายังเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลแน่นอน แต่จะมีการปรับรูปแบบ เพราะมีการวางแผนที่จะจ่ายเป็นเงินสดด้วย ต้องลองดูว่าอะไรที่จะแก้ในรายละเอียดก็มีแน่นอนต้องแก้ ซึ่งอาจจะปรับรูปแบบเฟสแรกจะเป็นเงินสด แต่ขอให้รายละเอียดชัดเจนก่อน เพราะกลัวพูดไปแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียด เดี๋ยวจะโดนหาว่าพูดไม่ตรง ต้องทำการบ้านกันก่อน ส่วนในการประชุม ครม. วันนี้ (3 ก.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ยังคงเป็นประธานในการประชุม ครม. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการประชุม ครม. ครั้งสุดท้าย ก่อนที่ ครม.แพทองธาร จะเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งคาดว่าหลังจากโปรดเกล้าฯ ครม. และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว จากนั้นคาดว่า วันที่ 5 กันยายน จะมีการนัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เพื่อเสนอนโยบายต่อ ครม. และคาดว่าจะนัดแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 11 กันยายน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าจะตรงกับวันแถลงนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาด้วย ก่อนที่จะประชุม ครม.นัดแรก ในวันที่ 17 กันยายน โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2566 นายเศรษฐา แถลงนโยบายต่อรัฐสภา 5 เรื่องสำคัญ คือ เติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แก้ปัญหาหนี้สินเกษตร-หนี้ กยศ. ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว แก้ปัญหาความเห็นต่างในรัฐบาลธรรมนูญ ส่วนวันที่ 11 กันยายน 2567 นี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันแถลงนโยบายของ นางสาวแพทองธาร คาดว่าจะเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต และเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ "ภูมิธรรม" ยันไม่เกินกลางเดือนแถลงนโยบาย ขณะที่ นายภูมิธรรม บอกว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่จบขั้นตอน อยู่ที่ นายกรัฐมนตรี จะจิ้มสลับตำแหน่ง ใครไปไหนหรือไม่ ถ้าโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อไหร่ และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเรียบร้อย คิดว่า ครม. นัดแรก จะประชุมได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอวันอังคาร ซึ่งการประชุม ครม. นัดแรก จะแต่งตั้งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงพูดคุยเรื่องนโยบายที่จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ขั้นตอนต่าง ๆ จะอยู่ภายในวันที่ 15 กันยายน บวกลบไม่เกิน 3 วัน ส่วนกรณีที่ พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม อดีต สว. ออกมาคัดค้าน ไม่ให้ นายภูมิธรรม นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะเคยเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่เข้าป่าเหตุการณ์เดือนตุลาคม เรื่องนี้ นายภูมิธรรม บอกว่า ตนคิดว่าการเคยเข้าไปอยู่ในป่าในช่วงที่เกิดความรุนแรงในสังคม เป็นการหนีภัยความรุนแรง และไม่ใช่มีตนเพียงคนเดียว มีนักศึกษาเกือบทุกสถาบัน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตนก็ไม่เกี่ยวข้องในเรื่องอะไรเลย พิสูจน์ตัวเองมาตลอด 50 ปี ถ้าตนอยู่กระทรวงกลาโหม จะทำกองทัพให้เป็นกองทัพที่อยู่กับพี่น้องประชาชนได้ ช่วยเหลือประชาชน และเชื่อว่าความเป็นตัวเอง จะพูดคุยกับทหารทุกเหล่าทัพได้ "ธรรมนัส” อ้างมือมองไม่เห็นส่งชื่อน้องชายเข้า ครม. ขณะที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความชัดเจนรายชื่อรัฐมนตรีในโควต้าของร้อยเอกธรรมนัสว่า ไม่ใช่ว่าเป็นโควตา ยืนยันว่า เป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรีว่าจะเลือกใคร และตนไม่ได้ส่งรายชื่อไป ส่วนกรณีที่มีชื่อ นายอัครา พรหมเผ่า น้องชายของร้อยเอกธรรมนัส นั่ง รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์นั้น ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า อาจจะมีมือมองไม่เห็นส่งไปก็ได้ ซึ่งน้องชายตนอยู่วงการการเมืองมานานแล้ว เป็นรองนายกฯ อบจ. หลายสมัย และเป็น นายกฯ อบจ.พะเยา อยู่แวดวงการเมืองมาก่อนตน ทั้งนี้ไม่เสียดายที่ไม่ได้นั่งตำแหน่งอะไรเลย เพราะเหนื่อยมานาน ได้พักบ้างน่าจะมีความสุขมากกว่า "ชาดา" ถอนตัวพ้นโผ ครม.ส่งลูกสาวนั่งแทน ขณะเดียวกันวันนี้ มีกระแสข่าวว่าสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ตีกลับรายชื่อของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ของรัฐบาลแพทองธาร 1 ซึ่งหลังจากประชุม ครม. นักข่าวได้สอบถามถึงประเด็นเรื่องคุณสมบัติกับ นายชาดา นายชาดา ได้ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ทีมข่าวของเราจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม นายชาดา อีกครั้ง นายชาดา จึงยืนยันว่า ได้ขอถอนตัวออกจากโผ ครม. โดยจะส่ง นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาว มานั่งแทนเพื่อสานงานต่อ ยืนยันว่าสาเหตุที่ถอนตัวไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงแสดงสปิริตถอนตัว ซึ่งเข้าใจ นายกฯ ที่เป็นคนรับรอง สำหรับ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เป็นลูกสาวคนกลางของนายชาดา ปัจจุบันอายุ 39 ปี 11 เดือน เข้าพิธีแต่งงานกับ กับ ชาเดฟ อนันต์ ปาทาน ไปเมื่อเดือน มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดงานแต่งยิ่งใหญ่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี คลาคล่ำไปด้วยบรรดาคนในแวดวงการเมือง เพราะเจ้าภาพจองโรงแรมหรูบนเกาะสมุยทั้งโรงแรม ร่วม 500 ห้อง ทั้งหมด 4 คืน เพื่อต้อนรับแขก ในส่วนของการทำงานการเมืองนั้น นางสาวซาบีดา ทำงานใกล้ชิดกับผู้เป็นพ่อมาตลอด เนื่องจากเป็นหนึ่งในคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย "อนุทิน" เผย "ชาดา" ถอนตัว เพื่อความสบายใจ ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ถอนตัวจากโควตารัฐมนตรีของพรรค และให้ นางสาวซาบีดา บุตรสาว มาดำรงตำแหน่งแทนว่า ไม่มีประเด็นข้อกฎหมายใดที่ทำให้ต้องเปลี่ยนตัว แต่เป็นเรื่องการให้ความร่วมมือที่ดี ให้ทุกอย่างเดินหน้าได้เพื่อให้ลงตัว ให้เกิดการทำงานที่ไหลลื่นที่สุด เป็นการตกลงร่วมกัน เป็นการเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย เพราะวันนี้เราให้ความสำคัญกับคำว่าจริยธรรม จึงพยายามไม่ให้มีปัญหาอะไรเลย ต้องขอบคุณ นายชาดา อย่างมาก ที่ระบุว่า อย่าให้ติดอยู่กับท่าน หัวหน้าจะเอาใครก็ได้ ยืนยันว่า ลูกสาวนายชาดา ไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งได้พบกับ นางสาวซาบีดา แล้ว โดย นายชาดา พามาพบ แล้วตนก็สัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งโหงวเฮ้งดี และมีความเป็นลูกของนักการเมืองคุณภาพ ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยคงนิ่งเท่านี้ เพราะเปลี่ยนไม่ไหวแล้ว ส่วน นายชาดา ยังเป็น สส. ซึ่งต้องมาช่วยงานสภา เพราะฉะนั้น อาจเป็นจุดแข็งด้วยซ้ำ เพราะมีบทบาททำหน้าที่เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ในคณะที่สำคัญต่าง ๆ โผ ครม.ลงตัว ภูมิธรรมคุมทหาร-ตำรวจ รายชื่อคณะรัฐมนตรี แพทองธาร 1 ในส่วน พรรคภูมิใจไทย ที่ได้ 8 เก้าอี้ คือ 4 รัฐมนตรีว่าการ และ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ต้องปรับเปลี่ยนจากเดิม คือ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ จะมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส่วนคนอื่นยังคงดำตำแหน่งเก้าอี้เดิมทั้งหมด อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนรายชื่อ ครม. ในพรรคอื่น ๆ อย่าง พรรคเพื่อไทย ได้ 17 เก้าอี้ แบ่งเป็น 9 รัฐมนตรีว่าการ และ 8 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ส่วนใหญ่นั่งตำแหน่งเดิม ที่มีการปรับเปลี่ยน คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย (เดิม รองนายกฯ ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) มานั่งรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทนที่ นายสุทิน คลังแสง โดย นายภูมิธรรม การวางตัวให้เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เพื่อกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ส่วนเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เดิมของ นายภูมิธรรม ตกเป็นของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ จะมานั่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แทน ส่วน นายสรวงศ์ เทียนทอง จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แทนที่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่จะหลุดจาก ครม. นายชูศักดิ์ ศิรินิล นั่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทนนายจักรพงษ์ แสงมณี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนที่ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ และนายอัครา พรหมเผ่า น้องชายร้อยเอกธรรมนัส เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโควตาพรรคเพื่อไทย ขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 เก้าอี้ 2 รัฐมนตรีว่าการ และ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่ยังนั่งเหมือนเดิม คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, ส่วน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ มานั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แทน นางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส่วน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีต ผบ.ทบ. และเป็นนายทหารน้องรักที่เคยทำงานใกล้ชิด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มานั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งใน ครม.เศรษฐา ไม่มีคนนั่งตำแหน่งนี้ ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้โควตา 4 เก้าอี้ 2 รัฐมนตรีว่าการ และ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่คราวนี้ไม่ได้มาร่วมรัฐบาล ทำให้ 4 เก้าอี้ ถูกแบ่งให้กลุ่ม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า 2 เก้าอี้ คือ นางนฤมล ภิญโญสิวัฒน์ ที่จะมานั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แทน ร้อยเอกธรรมนัส และ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร จะมานั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แทนลูกชาย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร และอีก 2 เก้าอี้ ตกเป็นของ พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่จะมานั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแทน พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง นั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทน นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส่วน พรรคชาติไทยพัฒนาที่ได้ 1 เก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการ และพรรคประชาชาติ 1 เก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการ ต้องคงนั่งตำแหน่งเดิม คือ นายวราวุธ ศิลปอาชา นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม "จตุพร" เชื่อ "ทักษิณ" จบ พ.ย.- "อุ๊งอิ๊ง" ไม่เกินตรุษจีน ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) ว่า หลังจาก นางสาวแพทองธาร นำ ครม. ถวายสัตย์ปฏิญาณตัวแล้ว จะถูกยื่นคำร้องชุดใหญ่ ทั้งเอกสาร หลักฐานกล่าวหาจริยธรรมไม่ซื่อสัตย์ อีกทั้งเชื่อว่า พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แฉการเข้าพบนักโทษป่วยชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เริ่มขยายผลมากขึ้นว่า นายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ และถ้า นายทักษิณ ไม่ได้ติดคุกจริงสักวัน ไม่เข้าข่ายคุณสมบัติได้อภัยโทษ จึงมีโอกาสกลับไปรับโทษ 1 ปี หรือ 8 ปี ถ้าไม่มี ทักษิณ แล้ว รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ก็ไม่มีสภาพอะไรเลย ส่วนการยื่นสอบนายกฯ คงทยอยตั้งแต่เรื่องข้อสอบรั่ว สนามกอล์ฟอัลไพน์บนที่ธรณีสงฆ์ ขายหมู่บ้านผ่านนอมินีให้ทุนจีนเทา เรื่องบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นต่างประเทศ คงมีสักเรื่องสามารถเล่นงานได้อยู่แล้ว โดยได้ยินมาว่าผู้มีหน้าที่ล็อกเป้าเวลาอำนาจของทักษิณ จะจบลงใน พ.ย.นี้ ส่วนนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ไม่เกินตรุษจีน 68 เพื่อหยุดความเสียหายของประเทศไม่ให้ลุกลามไปมากกว่าขณะนี้ "ทวี" ชี้ ป.ป.ช.สอบอยู่ ปม "ทักษิณ" อยู่ชั้น 14 ขณะที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ประเด็นดังกล่าวอยู่ในเรื่องการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่ง กรมราชทัณฑ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ข้อมูล และต้องเรียนว่า ในช่วงเดือน สิงหาคม 2566 ที่ นายทักษิณ กลับมา รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ได้บริหารประเทศ ส่วนเรื่องการส่งข้อมูลกล้องวงจรปิดให้กับ ป.ป.ช.นั้น อยู่ในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ ต้องถามทางโรงพยาบาล เพราะเรามีแค่ในส่วนของกรมราชทัณฑ์