ทะเลสาบสงขลาวิกฤตหนักพบโลมาอิรวดีตายเพิ่ม

วันที่ 2 ก.ย. 2567 เวลา 18:13 น.

ทะเลสาบสงขลาวิกฤตหนัก หลังชาวประมงพื้นบ้าน พบซากโลมาอิรวดีตายเพิ่มอีก 1 ตัว ทำให้เหลือ 13 ตัวเท่านั้น เมื่อเวลา 12:00 น. วันนี้ ( 2 ก.ย.67) นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธานชมรมอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน ในทะเลสาบสงขลา ว่าพบโลมาอิรวดี 1 ตัว ลอยตายอยู่ในทะเลสาบสงขลา ห่างจากชายฝั่งบ้านแหลมหาด ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ ประมาณ 7-8 กิโลเมตร จึงให้ชาวประมง ชักลากเข้ามายังบริเวณชายฝั่ง จากนั้นแจ้งให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง มาตรวจสอบ โดยนายสัตวแพทย์ รัตนกร พากเพียร  นายสัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) ได้นำเจ้าหน้าที่ผ่าพิสูจน์ซากโลมาอีกรวดีตัวดังกล่าว พบว่า ตามลำตัวมีร่องรอย บาดแผลจากอวนหาปลา ในชั้นกล้ามเนื้อมีร่องรอยฟกช้ำตามลำตัว จึงสันนิษฐานเบื้องต้นอาจจะตายเพราะติดอวน ส่วนในกระเพาะอาหาร มีเศษ ของกุ้งก้ามกราม เศษปลาหัวโม่ง และ เศษปลามิหลัง ซึ่งเป็นปลาประจำพื้นถิ่นในทะเลสาบสงขลา จากการพิสูจน์ซากเบื้องต้น พบว่าเป็นโลมาอิรวดี เพศผู้ โตเต็มวัย จนถึงวัยแก่ อายุประมาณ 25-30ปี เนื่องจากในช่องปากไม่มีฟันแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเก็บชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์จากสาเหตุการตายได้อย่างละเอียด เนื่องจากซากเริ่มเน่าเปื่อย แต่ได้เก็บตัวอย่างกล้ามเนื้อ เพื่อนำไปตรวจ และเก็บตัวอย่าง DNA เพื่อรวบรวมข้อมูล โรงพยาบาลอิรวดีในทะเลสาบสงขลา หลังจากตัวนี้ตายแล้วก็ทำให้สถานการณ์ลงมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา เข้าสู่ขั้นวิกฤต คาดการณ์ว่าเหลือไม่ถึง 20 ตัวแล้ว ด้านนายอุทัย ยอมรับว่า สถานการณ์ของโรมาอิรวดี ในทะเลสาบสงขลาเข้าสู่ขั้นวิกฤต เหลือน้อย จากปัจจัยน้ำเสีย และอาหารไม่เพียงพอ จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อรณรงค์ และภูเก็ตสำนึกในการอนุรักษ์โลมาอิรวดี เพราะเพิ่งให้ชาวประมงรณรงค์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำได้ แต่ยอมรับว่ามีกลุ่มชาวประมงบางคนที่ต่อต้าน เพราะเห็นว่าโลมาอิรวดีแย่งอาหาร ขณะที่เดือนที่ผ่านมาชาวประมงได้พบโลมาอิรวดี 1 ฝูง มีแม่และลูก ประมาณ 8 ตัวกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาตอนบน และจากการสำรวจ พบว่ามีแน่ชัดแล้ว 14 ตัว แต่ล่าสุดตายไป 1 ตัวทำให้ขณะนี้เหลือเพียง 13 ตัว