ชี้ตัวแล้ว 1 นาย ตำรวจล่อซื้อบริการทางเพศ-รีดเงิน
วันที่ 2 ก.ย. 2567 เวลา 16:36 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สาวเอนเตอร์เทนชี้ตัวแล้ว ตำรวจ 1 นาย ยศสัญญาบัตร ที่ล่อซื้อบริการทางเพศ แต่ขอเงินคืน อ้างไม่เสร็จ แล้วนำตัวไปรีดเงินเพิ่ม กรณี นางสาวเอ (นามสมมุติ) สาวเอนเตอร์เทน อายุ 27 ปี ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ติดต่อขอซื้อบริการทางเพศ แต่หลังมีเพศสัมพันธ์แล้วกลับอ้างไม่เสร็จกิจ ขอเงิน 1,500 บาทคืน เมื่อฝ่ายหญิงปฏิเสธ ก็กล่าวอ้างเป็นตำรวจ พร้อมนำตัวไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมกับสาวเอนเตอร์เทนอีกคน ขู่จะดำเนินคดีค้าประเวณี จากนั้นก็เรียกรับเงิน 20,000 บาท แต่สองสาวต่อรองเหลือ 5,000 บาท ถึงจ่ายเป็นเงินสด 4,000 บาท และโอนเข้าบัญชีธนาคารอีก 1,000 บาท ความคืบหน้าวันนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา นางสาวเอ (นามสมมุติ) เดินทางไปที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อชี้รูปภาพชายฉกรรจ์ทั้ง 4 รายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ โดยมี พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รามอยู่ในขั้นตอนการชี้รูปภาพดังกล่าวด้วย หลังจากชี้รูปภาพแล้ว ต่อมา พ.ต.อ.เอกราช แถลงว่า ในรูปภาพกำลังพล 15 นาย ที่นำมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ชี้รูปภาพถูกต้อง 1 นาย เป็นตำรวจสังกัดกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบว่าในคืนเกิดเหตุ ผู้เสียหายยืนยันว่าตำรวจนายนี้ อยู่ในจุดเกิดเหตุที่ 2 คือ ที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ แต่ไม่ได้อยู่ในจุดแรกที่โรงแรม ส่วนกำลังพลอีก 14 นาย ในรูปที่นำมาให้ชี้ตัว ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวน จะพยายามสอบสวนผู้เสียหาย เพื่อให้ได้รูปพรรณสัณฐาน รวมถึงสืบสวนจากหลักฐานการโอนเงิน เพื่อให้ได้ตัวผู้ก่อเหตุ 3 คนอีกที่เหลือมาดำเนินคดี จากการลงพื้นที่ของทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน พบว่า ตำรวจ 1 นาย ที่ถูกผู้เสียหายชี้ภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุในวันนี้ เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำลังการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจ 15 นาย ที่ถูกเด้งไปปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหลังเกิดเหตุ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยตำรวจนายดังกล่าวให้ข้อมูลกับทีมข่าวเย็นประเด็นร้อนว่า คืนนั้นตนอยู่ที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จากนั้นเห็นสายตำรวจคนหนึ่งกับเพื่อนอีก 3 คน ที่ไม่ใช่ตำรวจ พาผู้หญิงคนดังกล่าวมานั่งอยู่ที่โต๊ะม้านั่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน จึงไม่ได้สนใจ ต่อมาหลังเป็นข่าวจึงรู้ว่า ทั้ง 4 คนนั้น ไปล่อซื้อและรีดเงิน ซึ่งไม่ใช่ภารกิจของหน่วย และต้นยืนยันว่าไม่รู้เรื่องด้วย โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีคำสั่งเด้ง 15 ตำรวจ ที่ปฏิบัติงานในห้อง หน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในคืนดังกล่าว ให้ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไว้ก่อน