ป้ามหาภัย ป่วนคลินิก 2 ปี ทำลูกค้าหาย
วันที่ 26 ส.ค. 2567 เวลา 16:43 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ป้ามหาภัย ป่วนคลินิกทำฟัน มีการเอาหินไปยัดใต้ท้องรถยนต์ลูกค้า และไปเขียนรถหมอและลูกค้า คำว่า "ตาย" มีการนำรองเท้าของคนไข้ไปโยน วันดีคืนดีมายกโต๊ะนั่งหน้าคลินิกขึ้นซ้อนกันจนตอนนี้ ป้าจะมีอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของคลินิกไปแจ้งความไปแล้วหลายครั้ง แต่ตำรวจยังทำอะไรไม่ได้ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี เจ้าของคลินิกทำฟันแห่งหนึ่ง ในอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เดินทางเข้าร้องเรียน กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกมนุษย์ป้าหญิงอายุ 60 ปี ก่อกวนป่วนคลินิกมีพฤติกรรมหลายอย่างจนได้รับความเดือดร้อนมานานนับปี โดย นายเอ เล่าว่า ตัวเองได้ทำการเช่าอาคารพาณิชย์เป็นตึก 2 ชั้นครึ่ง เพื่อเปิดเป็นคลินิกทำฟันเมื่อปี 2561 โดย "ป้าผู้ก่อเกตุ" ก็เป็นผู้เช่าอาศัยอยู่อาคารข้าง ๆ ซึ่งก็อยู่กันมาโดยปกติตลอด ไม่เคยมีปัญหากันต่างคนต่างอยู่ จนกระทั่งปี 2566 สามีของป้าผู้ก่อเหตุเสียชีวิต ป้าจึงอาศัยอยู่คนเดียว และคิดว่าน่าจะเกิดสภาวะความเครียด จึงเริ่มก่อเหตุสร้างความวุ่นวายให้กับทางคลินิก โดยเริ่มแรกจากการที่ป้านำน้ำมาฉีดใส่กระจกที่คลินิก จากนั้นก็นำก้อนหิน เศษขยะ ไปยัดไว้ที่ล้อรถยนต์ที่จอดหน้าคลินิก ต่อมาป้าได้มีการอาละวาด กล่าวหาว่าเด็กเล็กที่เป็นลูกของคนไข้ ส่งกระแสจิตไปก่อกวนเขา ป้าจึงเตะเศษขยะใส่เด็กที่นั่งอยู่หน้าคลินิก จนทำให้เด็กร้องไห้ตกใจหวาดกลัว และมีการฉีดน้ำใส่คนไข้ที่จอดรถจักรยานยนต์ที่หน้าคลินิก เอารองเท้าคนไข้ที่มาทำฟันไปตักเศษดิน โดยอ้างว่าลูกค้าเดินผ่านหน้าบ้านทำปากมุบมิบ ทำให้ป้าเข้าใจว่าไปด่าโดยผ่านกระแสจิต แล้วนำไปโยนทิ้งบนถนน รวมถึงมีการเขียนข่มขู่คำว่า "ตาย" บนรถยนต์หน้าคลินิกซึ่งเป็นรถของคนไข้ ตอนนี้ ป้าเริ่มมีอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่ตนเองกังวล เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการกับคุณหมอ ตนเคยไปแจ้งความไว้หลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงบริเวณจุดที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากป้าผู้ก่อเหตุเมื่อเห็นตำรวจก็จะเดินหนีเข้าบ้าน ซึ่งขณะนี้คดีก็อยู่ระหว่างดำเนินการ รวมถึงก่อนหน้านี้ได้มีการไปแจ้งทางเทศบาลในพื้นที่ แต่เมื่อเทศบาลมาลงพื้นที่จุดเกิดเหตุก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ พร้อมอ้างว่า ป้าเป็นคนนอกป้าเป็นคนนอกพื้นที่และเป็นประชากรแฝง แจ้งศูนย์ดำรงธรรมก็เงียบ จนตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ระบุว่าจะต้องมีการพิสูจน์ทราบว่าป้าผู้ก่อเหตุนั้นแกล้งบ้า หรือบ้าจริง ป้ามีการปาขยะใส่คนที่เดินผ่าน และอ้างว่าเค้าด่าผ่านกระแสจิตนั้นก็จะต้องพาป้าไปรักษาโดยการพาไปหาแพทย์ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุ มีญาติหรือไม่ถ้าหากพบว่ามีก็จะประสานให้พาตัวไปรักษา แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าป้านั้นแกล้งจนก่อเหตุต่าง ๆ ขึ้นมานั้น ก็จะมีการประสานไปยัง สภ.ด่านขุนทด เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบ รวมถึงเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น หลังจากนี้ก็จะประสานไปยังปลัดและนายอำเภอ เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือผู้เสียหาย