กัมพูชารายงานเด็ก 15 ปี ตายจากไข้หวัดนก ไทยควรเฝ้าระวัง
วันที่ 21 ส.ค. 2567 เวลา 13:41 น.
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ แนะไทยควรเฝ้าระวัง กัมพูชารายงานเด็กตายจากไข้หวัดนก สอบสวนโรคพบในหมู่บ้านมีไก่ตายจำนวนมาก แจกจ่ายซากไก่เพื่อนำไปปรุงอาหาร เด็กหญิงสัมผัสไก่ก่อนแสดงอาการ วันนี้ (21 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล ให้ข้อมูลกรณีกัมพูชารายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนก H5N1 รายล่าสุด เป็นเด็กหญิงวัย 15 ปี และผู้ป่วยรายที่ 10 ของประเทศกัมพูชาที่ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในปีนี้ กรณีไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 รายที่9 ที่เคยถูกถอดรหัสพันธุกรรมในกัมพูชาก่อนหน้านี้ ถูกระบุว่าเป็นสายพันธุ์เอเชีย 2.3.2.1c สายพันธุ์นี้ถูกตรวจพบในหลายภูมิภาค รวมถึงเวียดนามและกัมพูชา ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน การศึกษาระบุว่าสายพันธุ์ 2.3.2.1c แพร่หลายในเวียดนามตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2560 และในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2559 สายพันธุ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การผสมพันธุ์ใหม่และถูกตรวจพบในหลายจีโนไทป์ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ของกรณีปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เนื่องจากข้อมูลในปัจจุบันไม่ได้ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจง สำหรับการเสียชีวิตของเด็กหญิงอายุ 15 ปี จากโรคไข้หวัดนก H5N1 ในจังหวัดไพรแวง ทางตะวันออกของประเทศกัมพูชา เป็นเด็กหญิงจากหมู่บ้านโปมินห์ มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และหายใจลำบาก ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ผลการตรวจจากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติและสถาบันปาสเตอร์ ยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 การสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ประมาณ 5 วันก่อนเกิดอาการ มีไก่ตายจำนวนมากในหมู่บ้าน และมีการแจกจ่ายไก่ที่ตายแล้วให้ครอบครัวในพื้นที่ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยเด็กหญิงได้สัมผัสกับซากไก่เพื่อนำไปประกอบอาหาร ซึ่งกัมพูชากำลังดำเนินการสอบสวนโรคในพื้นที่ พร้อมทั้งค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและแจกจ่ายยาต้านไวรัสทามิฟลู นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนในหมู่บ้าน ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดนก H5N1 ว่า เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่อันตราย แม้จะติดต่อจากคนสู่คนได้ยาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดใหญ่หากไวรัสกลายพันธุ์ ทางการกัมพูชาจึงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในกัมพูชาตะวันออก แต่ด้วยความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และการเดินทางระหว่างสองประเทศ ไทยอาจพิจารณาแนวทางดังนี้ 1. อาจเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับจังหวัดไพรแวงของกัมพูชา 2. ควรให้ข้อมูลและสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนไทยที่มีแผนเดินทางไปกัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและข้อควรระวังในการสัมผัสสัตว์ปีกหรือการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก 3. อาจทบทวนมาตรการตรวจสอบการนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกจากกัมพูชา เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย 4. อาจพิจารณาเผยแพร่ข้อมูลความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับอาการของโรคไข้หวัดนก และวิธีการป้องกันตัวเอง ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ 5. อาจมีการทบทวนความพร้อมของระบบสาธารณสุขในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 6. อาจพิจารณาการประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขของกัมพูชาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามสถานการณ์ แนวทางเหล่านี้เป็นเพียงข้อเสนอแนะที่อาจช่วยเพิ่มความตระหนักรู้และการเตรียมพร้อมในประเทศไทย โดยไม่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกเกินเหตุ ทั้งนี้ การตัดสินใจดำเนินการใดๆ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสมกับสถานการณ์จริง ในสหรัฐอเมริกา ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 เป็นสายพันธุ์ 2.3.4.4b ได้แพร่ระบาดเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัวนมในรัฐเท็กซัสและแคนซัส สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นในปี 2563 และเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงวัว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ใช่โฮสต์ทั่วไปของไวรัสไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสูง ในรัฐเท็กซัส ไวรัสนี้ทำให้เกิดการลดลงอย่างฉับพลันของการผลิตน้ำนมในวัวนม และการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมแสดงให้เห็นว่าไวรัสเหล่านี้เป็นจีโนไทป์ใหม่ภายในกลุ่มย่อย 2.3.4.4b