พี่เมียปืนดุ ถูกผัวใหม่น้องสาวหยามศักดิ์ศรี เข้ามาอยู่ในบ้าน ซัดลูกซองยิงดับ ทั้งที่เคยห้ามแต่ไม่ฟัง
วันที่ 20 ส.ค. 2567 เวลา 08:52 น.
พี่เมียปืนดุ! สะพายลูกซองยาว ลั่นไก 2 นัด จบชีวิตผัวใหม่ของน้องสาวดับคาบ้าน หลังเคยลั่นวาจา "คบกันไม่ว่า แต่ห้ามมาอาศัยอยู่บ้านหลังนี้" แต่กลับถูกผัวใหม่น้องสาวหยามศักดิ์ศรี ย้ายเข้ามาอยู่ได้เพียงแค่ประมาณ 2 วัน คว้าปืนยิงดับ ก่อนหลบหนีขึ้นภูเขา เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วันนี้ 19 ส.ค.67 ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายด้วยอาวุธปืน เหตุเกิดภายในบ้านพัก ที่ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ริมถนนสายน้ำผุด-ไสเดือย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง นายจตุรงค์ เครือเตียว กำนันตำบลน้ำผุด กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ๊วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เข้าไปภายในบ้านบนพื้นรอยต่อระหว่างห้องโถงกับห้องครัว และเป็นบริเวณหน้าประตูห้องนอนกลางบ้าน พบร่างของ นายณรงค์ อายุ 56 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับแพทย์เวรได้ชันสูตรพลิกศพ พบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว เข้าที่แผ่นหลัง ท้ายทอย และเอวด้านขวา ลูกปรายกระสุนปืนลูกซองเจาะเข้าร่างจำนวนหลายแผล บนฝาผนังบ้านที่อยู่ติดกับร่างผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืนขนาดเดียวกัน ยิงเข้าจนฝาผนังปูนแตกเป็นกลุ่มใหญ่ และใกล้กันยังพบหมอนรองกระสุนปืนตกอยู่ ถัดออกมาบนพื้นดินและพื้นปูนหน้าบ้าน พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ชนิดปลอกสีขาว ตกอยู่ใกล้เคียงกันจำนวน 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายบุญธรรม อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายแฟนผู้เสียชีวิต ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัว นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี แฟนผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุ พร้อมกับเพื่อนบ้านรายหนึ่งไปสอบปากคำอย่างละเอียด ที่ สภ.เมืองตรัง นางเอ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุพี่ชายตน ที่มีบ้านพักอยู่หลังบ้านที่เกิดเหตุ ได้สะพายอาวุธปืนลูกซองยาว เดินเข้ามาหน้าบ้านหลังเกิดเหตุโดยเรียกตน และบอกว่า ให้ตนพาผัวของตน (ผู้เสียชีวิต) ไปบ้านพี่ (ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชาย) สักประเดี๋ยว ตนก็ถามกลับไปว่าทำไม สามีใหม่เขาแค่มาเที่ยว และมาช่วยทำงานสอยลูกมังคุดได้แค่ 2 วัน ก่อนที่พี่ชายจะใช้ปืนยิงใส่สามีใหม่ตน 2 นัดทันที ตนก็ไม่รู้ว่าพี่ชายไม่พอใจอะไรสามีใหม่ แต่รู้ว่าพี่ชายไม่ชอบพอสามีใหม่ แต่ก็ไม่เคยห้ามว่าไม่ให้คบหากัน ส่วนเพื่อนบ้านรายดังกล่าว ซึ่งยังมีสัมพันธ์ทางเครือญาติเปิดเผยว่า หลังกลับจากเต้นแอโรบิค ขณะที่ตนอยู่บ้านแม่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับบ้านหลังเกิดเหตุ ปรากฏว่าได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นมาจากบ้านเกิดเหตุจำนวน 2 นัด ก่อนที่จะเห็นผู้ก่อเหตุเดินสะพายปืนลูกซองยาวตัดผ่านบ้านไป ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เอะใจว่าเขาเป็นคนยิง จึงเดินออกมาดูที่บ้านหลังเกิดเหตุ ก็พบว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ส่วนจะขับรถหนีหรือไม่นั้นตนก็ไม่ได้เห็น แนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า นางเอ ได้ไปมีแฟนใหม่คือผู้ตาย ซึ่งเป็นชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และแฟนใหม่ก็เป็นคนที่รู้จักกันดีกับพี่ชายของนางเอ มาก่อน ทำให้พี่ชายของนางเอ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้เคยบอกไว้ว่า หากจะคบหากันก็ไม่เป็นไร แต่ให้ไปอยู่กันที่อื่นได้ อย่ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนสามีเก่านางเอ ก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว กระทั่งนางเอได้ออกจากบ้านไปอยู่กับผู้ตายที่ อ.ปากพนัง ได้ระยะหนึ่ง จนวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา นางเอได้กลับจาก อ.ปากพนัง มาอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ จนต่อมาคาดว่าประมาณวันที่ 17 ส.ค. ผู้ตายซึ่งเป็นแฟนใหม่ ก็ได้ตามมาอยู่กับนางเอ ที่บ้านหลังนี้ด้วย จนทำให้สามีเก่าต้องย้ายไปอยู่บ้านอื่น จนอาจทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจในลักษณะเป็นการหยามศักดิ์ศรี ทั้งๆที่เคยพูดบอกไว้แล้ว แต่ปรากฏว่าผู้ตายยังคงมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้อีก จนกระทั่งในวันนี้ (19 ส.ค.) ผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนลูกซองยาว ชนิดบรรจุ 5 นัด เข้ามาบริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ ก่อนจะยิงใส่ผู้ตายเข้าไป 2 นัดจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยที่ผู้ก่อเหตุได้เดินสะพายปืนลูกซองยาวออกไปจากบ้าน โดยขับรถ จยย.หลบหนีไป และคาดว่าจะหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวภายในป่าในพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาป่ารกทึบ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมทั่งไล่กล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตทางเครือญาติ ได้เตรียมนำไปประกอบพิธีการตามศาสนา ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชต่อไป.