องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ ครั้งที่ 25 ประจำปี 2567 ที่จังหวัดนราธิวาส

วันที่ 19 ส.ค. 2567 เวลา 20:06 น.

ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงาน "ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ ครั้งที่ 25 ประจำปี 2567" ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส จัดขึ้นจนถึงวันที่ 21 สิงหาคมนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระกรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนเผยแพร่ผลสำเร็จของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ให้ประชาชนน้อมนำแนวพระราชดำริไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ โอกาสนี้ ได้มอบประกาศนียบัตรและรางวัลแก่เกษตรกรที่ชนะการประกวดผลผลิตทางการเกษตร 3 ประเภท ได้แก่ ถั่วฝักยาว, ข้าวโพดหวาน และมะพร้าวอ่อนน้ำหอม จากนั้น ชมนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ นิทรรศการ "เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา" จัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจด้านโครงการพระราชดำริที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย และโครงการพระราชดำริในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งศูนย์ฯ ได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการ มาต่อยอดโครงการฯ เน้นการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าและพัฒนาด้านการตลาด, นิทรรศการ "เปิดบ้าน ตามรอยพ่อ" จากส่วนงานต่าง ๆ ของศูนย์ฯ อาทิ โครงการแกล้งดินตามแนวพระราชดำริ, แลพรุ ชมเสม็ด มนต์เสน่ห์พิกุลทอง, เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน, หม่อนไหมสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์หม่อนไหม และพลังงานทางเลือกตามพระราชดำริ ไบโอดีเซล นอกจากนี้ หน่วยงานในจังหวัด, โรงเรียนในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามพระราชดำริ, วิสาหกิจชุมชนและกลุ่มเกษตรกร รวมทั้งโครงการฟาร์มตัวอย่าง ร่วมจัดแสดงนิทรรศการ "ต่อยอดองค์ความรู้ สู่การพัฒนาอาชีพ" อาทิ "เกษตรไทยห่างไกลสารเคมี" โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส แสดงการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร และช่องทางการขับเคลื่อนการตลาด, "เครื่องปั้นดินเผา บ้านรอตันบาตู" โดยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ 3 จังหวัดนราธิวาส สาธิตการทำเครื่องปั้นดินเผา และการเขียนลาย ตลอดจนมีการเสวนา, การฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น และการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ในตอนบ่าย เดินทางไปยังกรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอตากใบ เชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่กำลังพล รวม 250 นาย ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือที่ 33, กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 และ 4, หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส 14 และ 33, ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4411-4414 และชุดคุ้มครองตำบล ในพื้นที่อำเภอตากใบ และอำเภอสุไหงโก-ลก หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือที่ 33 มีภารกิจป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบในพื้นที่อำเภอตากใบและสุไหงโก-ลก รวมทั้ง ช่วยเหลือประชาชน เช่น การบรรเทาสาธารณภัยเมื่อเกิดอุทกภัย หรือการดับไฟป่า ที่มักเกิดเหตุไฟไหม้ป่าพรุช่วงหน้าแล้ง รวมทั้งการมอบสิ่งของ และซ่อมแซมบ้านพักแก่กลุ่มเปราะบาง จากนั้น เดินทางไปยังกองร้อยทหารพรานที่ 4816 อำเภอเจาะไอร้อง เชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี มอบแก่กำลังพลจากกองร้อยทหารพรานที่ 4802, 4806 และ 4816 รวมทั้งสถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้อง และกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนเจาะไอร้อง รวม 260 ถุง กองร้อยทหารพรานที่ 4816 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างกำลังประจำถิ่น ให้ขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ การรักษาความมั่นคงภายใน และภารกิจอื่น ๆ มีกำลังพล 57 นาย รับผิดชอบ 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเจาะไอร้อง บ้านลูโบ๊ะเย๊าะ บ้านไอปาแย ตำบลจวบ และบ้านเจาะเกาะ บ้านดารุลฮิซซาน ตำบลบูกิต ต่อจากนั้น เชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่บุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ซึ่งเปิดให้บริการปี 2541 เป็นโรงพยาบาลขนาด 10 เตียง ต่อมาปี 2543 ได้ขยายเป็นขนาด 30 เตียง แต่ปัจจุบัน รองรับได้ 56 เตียง แบ่งเป็นผู้ป่วยทั่วไป 50 เตียง และผู้ป่วยหลังคลอด 6 เตียง มีบุคลากรทางการแพทย์ รวม 195 คน ให้บริการประชาชนในพื้นที่อำเภอเจาะไอร้อง 3 ตำบล รวม 33 หมู่บ้าน