สมัครสมาชิก พรรคประชาชน พุ่งเกือบ 50,000 คน
วันที่ 12 ส.ค. 2567 เวลา 16:27 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบ และ หมออ๋อง รองประธานสภาฯ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ทำให้เก้าอี้ สส.เขต 1 พิษณุโลกของ หมออ๋อง ว่างลง และจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่ ล่าสุด พรรคประชาชน เตรียมส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก ขณะที่พรรคยังเดินหน้าหาสมาชิกเพิ่ม ขณะนี้ยอดผู้สมัครเกือบ 50,000 คนแล้ว สมัครสมาชิก พรรคประชาชน พุ่งเกือบ 50,000 คน พรรคประชาชนเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค และรับบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองผ่านทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา และเริ่มเปิดโต๊ะสมัครสมาชิกพรรคตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศตั้งแต่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา จนวันนี้หลายจุดก็ยังมีการตั้งโต๊ะ รับสมัครสมาชิกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งที่ตลาดบางน้ำผึ้ง จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดอ่างทอง โดยตั้งเป้าหมายสมาชิก 100,000 คน ภายใน 1 เดือน ซึ่งปัจจุบัน มีสมาชิกแล้วเกือบ 500,000 คน และมียอดเงินบริจาคเกือบ 24 ล้านบาท โดยวันนี้ พรรคประชาชน ได้มีการทำไพรมารีโหวต เพื่อส่งผู้สมัครไปเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 1 จังหวัดพิษณุโลกแทนตำแหน่งที่ว่างลง หลังจากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พิษณุโลกถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยมติพรรค พรรคประชาชน จะส่ง โฟล์ค นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สำหรับนายณฐชนน มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ และร่วมทำงานการเมืองกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกลมาตลอด และทำงานใกล้ชิดกับนายปดิพัทธ์ ส่วนสาเหตุที่พรรคประชาชน ส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกได้ ทั้งที่เพิ่งนำ สส.และสมาชิกย้ายพรรคไปนั้น ยังไม่ครบ 90 วันตามกฎหมายกำหนดนั้น เนื่องจากพรรคก้าวไกล ส่งคนไปสมัครสมาชิกพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ก่อนจะมีการยุบพรรค ทําให้นายณฐชนน เป็นสมาชิกพรรคครบกำหนด 90 วัน จึงมีคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้งได้ หมอวรงค์ จ่อยื่น กกต.ยุบ พรรคประชาชน 13ส.ค. แต่ตั้งพรรคใหม่ได้ไม่ถึงสัปดาห์ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลา 10.30 น.พรรคไทยภักดีจะไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ การมีสาขาของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล หลังจากตรวจสอบข้อมูลจากเว็บ กกต. พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคแค่ 2 ภาค ไม่ครบ 4 ภาค มีความเสี่ยงที่ถูกยุบพรรค แต่ต่อมาคนของพรรคประชาชน ตอบโต้ว่า ไม่อัปเดตข้อมูล และยืนยันว่า ตอนนี้มีสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาค ประเด็นที่ต้องตรวจสอบคือ ไม่ได้ตรวจสอบตอนปัจจุบัน แม้ตอนนี้จะมีครบ แต่ย้อนหลังอาจจะมีไม่ครบ กกต.ต้องตรวจสอบย้อนหลัง การมีสาขาครบ 4 ภาคของพรรคนี้ไปถึงปี 2560 เพราะเลขาธิการ กกต. ออกมายอมรับเองว่า เพิ่งมีการจัดตั้งจนครบ หากพรรคการเมืองไปเซ้งพรรคที่สิ้นสภาพ เพราะมีสาขาไม่ครบ 4 ภาค ติดต่อกัน 1 ปี ต่อไปพรรคนี้จะเป็นเช่นไร จะสิ้นสภาพตามหรือไม่ พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อความโปร่งใส กกต.ยัน พรรคประชาชน ตั้งสาขาครบ4ภาค ในเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ชี้แจงว่า การจัดตั้งสาขาพรรคของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลนั้น พบว่า 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคในส่วนที่ขาดอยู่จนครบ และระยะเวลาการจัดตั้งก็อยู่ภายใน 1 ปีที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้จะส่งเรื่องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบตามขั้นตอน ซึ่งนายทะเบียนฯ จะตรวจสอบก่อนว่าการจัดตั้งในเขตพื้นที่ถูกต้องหรือไม่ สมาชิกมาประชุมครบตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ถ้าการประชุมถูกต้อง ก็ไม่มีปัญหา และตราบใดที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่รับทราบก็จะยังไม่มีการลงในระบบฐานข้อมูลของสำนักงาน จึงทำให้ ณ ปัจจุบันข้อมูลนี้ยังไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ของ กกต. นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล กำลังมีการจัดตั้งสาขาพรรคอีกหนึ่งแห่งที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งถ้ามีการประชุมจัดตั้งแล้วเสร็จ ก็จะสามารถดำเนินการขั้นตอนเรื่องของการจัดส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างได้ทันที ประธานป.ป.ช.ลั่นไม่กดดัน ปมสอบ 44 สส.อดีตก้าวไกล ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. รับพิจารณาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่มีลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่นั้น ซึ่งหากผลคดีออกมาชี้ว่า ผิดจริง สส. ทั้ง 44 คน จะสิ้นสภาพ พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีการพิจารณาคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ต้องให้มีการไต่สวนให้ปากคำชี้แจงไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องมาตรฐานจริยธรรม โดย ป.ป.ช.จะยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง หลังจากนั้นศาลฎีกาจะไต่สวน และหลังจากนั้นหากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า อาจจะมีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม โดย ป.ป.ช.ยืนยันว่า ไม่กดดัน และไม่เป็นห่วง เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งต้องมีการชี้แจง พร้อมยืนยันว่า ป.ป.ช.จะให้ความเป็นธรรม ส่วนจะเรียกให้ 44 สส.มาชี้แจงเมื่อใดนั้น ตนคิดว่าคงไม่ช้า ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการ ประธานศาลรธน.ไม่ตอบปมวินิจฉัยสถานะนายกฯ ส่วนกรณีที่สังคมจับจ้องกรณีที่องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่า ขาดคุณสมบัติ ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ นักข่าวไปเจอ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จึงสอบถามประเด็นนี้ แต่นายนครินทร์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึง โดยไม่ได้พูดถึงคดีที่ถูกจับจ้องในเดือนสิงหาคมแต่อย่างใด โดยศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลไปก่อนหน้านี้ จะนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในเวลาเดียวกัน 15.00 น. วันที่ 14 สิงหาคมนี้ ซึ่งถ้านายกฯ ต้องออกจากตำแหน่ง รัฐบาลชุดปัจจุบันก็ต้องพ้นไปด้วยทั้งคณะ และต้องหานายกรัฐมนตรีใหม่โดยเร็วต่อไป