รวบ หมีนักลัก ถูกจับแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดพ้นโทษจากเรือนจำ ออกมาตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ไม่หยุด
วันที่ 10 ส.ค. 2567 เวลา 10:55 น.
รวบ หมีนักลัก ถูกจับแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดพ้นโทษจากเรือนจำ ออกมาตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ไม่หยุด พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนทั่วหนองจอก มีนบุรี สารภาพ เวลาก่อเหตุมักจะลักเอาทรัพย์สินที่มีราคาไม่สูงมาก เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ติดตาม เมื่อวันที่ 9 ส.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบนครบาล ได้จับกุมตัว นายหมี อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นดีตผู้ต้องขัง คดีร่วมกันปล้นทรัพย์, พ.ร.บ.อาวุธปืนและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 หลังนายหมี ได้ออกจากเรือนจำมา แต่มักตระเวนลักทรัพย์สินชาวบ้านในหลายพื้นที่ ย่านมีนบุรี หนงจอก สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้เห็นประกาศข้อความขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านหนองจอก ว่าทรัพย์สินได้ถูกลักเอาไปเป็นจำนวนหลายรายการและสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายวุฒิภูมิฯ เป็นผู้ก่อเหตุและติดตามตัวนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดพบว่า นายหมี เคยต้องโทษในคดีอาญาจำนวน 3 คดี 1. ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย คดีปี 2551 สน.มีนบุรี 2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คดีปี 2557 สน.คันนายาว 3. ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย คดีปี 2557 สน.คันนายาว จากการซักถามนายหมี ได้ให้การว่า ก่อเหตุลักทรัพย์มาหลายครั้งในพื้นที่มีนบุรี และใกล้เคียง แต่มักจะลักเอาทรัพย์สินที่มีราคาไม่สูงมาก เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ติดตามตัวและไม่ให้ความสนใจ วิธีการก่อเหตุ จะสลับป้ายทะเบียนมอเตอร์ไซต์ไปมา อีกทั้งยังอำพรางตัวโดยใช้เสื้อวินมอเตอร์ไซต์และเสื้อสะท้อนแสงเพื่อลดความสนใจของตำรวจที่ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดอยู่ อีกทั้งยังแจ้งว่าถ้าตำรวจมาสุนัขที่เลี้ยงไว้จะเห่ากรรโชกทำให้ตนไหวตัวได้ทัน โดยหลังจากลักทรัพย์สินมาจะนำไปขายเพื่อนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวันและซื้อยาเสพติดมาเสพ จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ นับว่าเป็นภัยสังคม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ออกตระเวนก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินในหลายท้องที่ในเวลากลางวัน มีการวางแผน อำพรางตัวเจ้าหน้าที่ สร้างความเดือดร้อนในกับสังคมโดยรวมอย่างมาก หากไม่รีบจับกุมตัวอาจเป็นภัยสังคมที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวในวงกว้างได้ และขอฝากเตือนประชาชน ไม่ว่าสิ่งของไม่ควรประมาทวางสิ่งของทรัพย์สินไว้นอกบ้าน ไกลสายตา เพราะจะเพิ่มโอกาสในการก่อเหตุของมิจฉาชีพได้