ตุ่มนูน แผลที่หัวเข่า กลายเป็นมะเร็งผิวหนัง
วันที่ 8 ส.ค. 2567 เวลา 18:24 น.
ตุ่มนูน มีแผลที่หัวเข่า เข้าใจว่าเกิดจากน้ำเหลืองเสีย ซื้อยาแก้อักเสบมากินเอง สุดท้ายกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง หมออารักษ์เตือนมีตุ่มนูน ทั้งมีแผลหรือไม่มีแผล หากเปลี่ยนสี โตเร็วผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งเตือนเพื่อสังเกตความผิดปกติของตนเอง โดยยกเคสผู้ป่วนเป็นตุ่มนูน มีแผลที่หัวเข่า ขึ้นเป็นวิทยาทาน โดยผู้ป่วยหญิงท่านหนึ่ง อายุ 60 ปีเศษ ให้ประวัติว่า เป็นตุ่มนูนขนาด 0.5 เซนติเมตร ที่เข่าขวา มาประมาณ 1 เดือน ต่อมาตุ่มแตกเป็นแผล มีเลือดไหล เสียดสีกับกางเกง ผู้ป่วยซื้อยาแก้อักเสบมากินเอง และทายาเอง แต่แผลก็ไม่หาย สุดท้าย ผู้ป่วยมาพบแพทย์แผนกศัลยกรรม ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ แพทย์แนะนำให้ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ ผลตรวจทางพยาธิวิทยา พบเซลล์มะเร็ง ชนิด SCC การตัดชิ้นเนื้อครั้งแรก เป็นเพียงเพื่อดูว่าเป็น แผลจากอะไร แต่เมื่อพบว่าเป็นมะเร็ง แพทย์จึงต้องผ่าตัดผู้ป่วยอีกครั้ง โดยปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อวางแผนผ่าตัด รอยโรคออกเป็นวงกว้างให้หมดทุกด้าน “แต่ตำแหน่งเนื้องอกบริเวณข้อเข่า ที่เป็นข้อพับ หากตัดแล้วเย็บแผลธรรมดา จะเป็นผลให้แผลแยกในภายหลัง จึงต้องอาศัยเทคนิคการผ่าตัด (แบบพิเศษ) โดยใช้เนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่ขาหนีบ มาปิดแทน เนื้อเยื่อส่วนที่ตัดออกไป หลังจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์ ผิวหนังที่เป็นกราฟ ที่นำมาทดแทน ก็จะติดกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน” หมออารักษ์ ย้ำว่า หากเป็นตุ่มนูน ทั้งชนิดมีแผลหรือไม่มีแผล อาจมีการเปลี่ยนสี เปลี่ยนขนาด โตเร็วผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจ รีบไปปรึกษาแพทย์ มะเร็งผิวหนัง หากปล่อยทิ้งไว้ ขนาดโตขึ้น การผ่าตัดก็ยากขึ้น และมะเร็งสามารถลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่น ๆ ได้ “มะเร็งผิวหนังที่บริเวณเข่า พบได้น้อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ใบหน้า ศรีษะ และทุกส่วนของร่างกาย เวลาอาบน้ำมันตรวจร่างกายตนเองอยู่เสมอ” หมออารักษ์ ระบุ