บุกจับพ่อค้ายาบ้าวัย 51 ปี ฉายา "อ้วนโคกโคเฒ่าจอมลีลา"

วันที่ 7 ส.ค. 2567 เวลา 10:26 น.

ฝ่ายปกครองเมืองสุพรรณบุรี บุกจับพ่อค้ายาบ้าวัย 51 ปี ฉายา "อ้วนโคกโคเฒ่าจอมลีลา" อ้างร่างกายไม่แข็งแรง ทำงานไม่ได้ ผันตัวจากเสพมาขาย ได้เสพเองด้วยวันละ 10 เม็ด วันนี้ (7 ส.ค. 67) เมื่อเวลา 02.30 น. ที่ผ่านมา นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (มังกร27) บุกเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.โคกโคเฒ่า อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ซึ่งอยู่กลางทุ่งนา หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบขายยาเสพติดกันภายในบ้าน จากการตรวจค้นพบ นายกิตติพงศ์ อายุ 51 ปี ฉายา “อ้วนโคกโคเฒ่าจอมลีลา” อยู่ในห้องนอน ตรวจค้นในห้องนอนเบื้องต้นพบยาบ้าจำนวนหนึ่งอยู่ในซองพลาสติกใส และถุงซิปปิดเปิดสำหรับใส่ยาเสพติดแบ่งขาย ก่อนนำตัวออกมาสอบถาม ว่ามียาบ้าเหลืออยู่อีกไหม นายอ้วน บอกว่าหมดแล้ว มีแค่ที่เจอ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เนื่องจากได้รับรายงานว่านายอ้วนเพิ่งจะรับยาบ้ามาจากเอเย่นต์หลายร้อยเม็ด จึงช่วยกันค้นหาต่อก็พบยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกสีฟ้าเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งซ่อนอยู่ในตู้หัวนอน โดยเจ้าหน้าที่ได้ถามนายอ้วนอีกว่า มียาบ้าอีกไหม ซึ่งนายอ้วน ตอบว่า หมดแล้ว มีเท่านี้แหละ เจ้าหน้าที่ก็ไม่เชื่อคำพูด จึงช่วยกันค้นหาทั้งนอกบ้าน ในบ้าน ในห้องนอนของนายอ้วน ห้องของพ่อและน้องสาว สุดท้ายก็พบยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกสีฟ้าซุกอยู่ในกระปุกอะลูมิเนียม วางอยู่บนโซฟาไม้ในห้องติดกันที่สร้างยังไม่เสร็จ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ถามนายอ้วนอีกว่า หมดยัง นายอ้วน ก็ยังตอบคำเดิมคือหมดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงถามนายอ้วนว่า ไหนบอกไม่มีแล้ว ทำไมยังหาเจออีก ซึ่งนายอ้วนตอบหน้าตาเฉยว่า ไม่มีใครรับหรอก ที่บอกว่าหมดแล้วเผื่อฟลุก เผื่อเจ้าหน้าที่หาไม่เจอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอ้วนไปชี้จุดที่พบยาบ้าแต่ละจุด เริ่มจากในห้องนอน โดยก่อนจะชี้ที่ซ่อนยาบ้า นายอ้วนได้ขึ้นไปยืนบนเตียง แล้วเปิดกล่องไม้ซึ่งเป็นที่เก็บเงินบนชั้นวาง หลังจากเปิดกล่องนายอ้วนได้หยิบเงินแบงก์ร้อยขึ้นมา 1 ฉบับ พร้อมส่งเสียงโวยวาย กล่าวหาว่าเงินหายไปไหนหมด ใครเอาเงินของตนไป เจ้าหน้าที่บอกให้ใจเย็น ๆ ดูให้ดี ๆ นายอ้วน จึงดูใหม่ พบว่าเงินยังอยู่ครบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ชี้ของกลาง แต่ก่อนจะชี้เจ้าหน้าที่ได้ถามนายอ้วน ว่ายาบ้าอยู่ตรงไหนบ้าง นายอ้วนบอกอยู่ 2 ที่ คือในห้องนอน และห้องติดกัน เมื่อเจ้าหน้าที่จึงถามอีกว่าจะให้เอามารวมกันหรือแยกกัน นายอ้วนก็ออกลีลา ถามเจ้าหน้าที่ว่า แยกของกลางกับรวมกันต่างกันอย่างไร โทษจะลดลงใช่ไหม เจ้าหน้าที่บอกเท่าเดิม ทำให้นายอ้วนคอตก แล้วบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เลย ภายหลังหลังชี้ของกลางในห้องเสร็จก็ไปที่ห้องติดกันซึ่งยังไม่มีประตู นายอ้วนได้ปีนเข้าไปชี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ได้เข้าประคองนายอ้วนให้ลุกขึ้น เนื่องจากนายอ้วนอ้างว่าตนสุขภาพไม่ดี ปวดหลัง กระดูกทับเส้นประสาท แล้วจู่ ๆ นายอ้วนก็เอะอะโวยวายเสียงดัง กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จะตบ จะไม่ยอมออกจากห้อง ทั้งที่ระหว่างชี้จุดเกิดเหตุน้องสาวของนายอ้วนก็ยืนดูอยู่ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็นำตัวออกมาได้ หลังจากออกมาแล้วนายอ้วนก็ยังไม่เลิกโวยวาย สั่งให้พ่อวัย 82 ปี ที่ยืนดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เปิดไฟ ทั้งที่ไฟก็สว่าง โดยบอกกลัวไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะทำร้าย ทั้งที่ไม่มีใครทำอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่มีกล้องวิดีโอบันทึกการทำงานตลอดเวลา และยังมีพ่อกับน้องผู้ต้องหายืนดูตลอดเวลา ไม่มีใครทำอันตราย และเจ้าหน้าที่ไม่เคยทำร้ายผู้ต้องหา จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาบ้ามาเอเยนต์ยาบ้าในพื้นที่ อ.ศรีประจันต์ ราคาถุงละ 3,000 บาท แล้วขายต่อราคาเม็ดละ 30-40 บาท แล้วแต่หน้าคนซื้อ ถ้าลูกค้าคนไหนกวนตีน ตนก็จะขายแพง ถ้าลูกค้าไม่กวนก็จะขายถูก ถ้าคุยถูกคอก็ให้เสพฟรี ก่อนที่จะมาขายยาบ้าตนเคยทำงานเป็นลูกจ้างอยู่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง แต่สุขภาพไม่ดี เป็นกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ทำงานต่อไม่ได้ จึงออกจากงาน เครียดจึงหันไปเสพยาเสพติด เริ่มจากสูบกัญชา โรยผงขาวอยู่นาน เคยมีครอบครัว ซึ่งเมื่อก่อนทั้งตนและภรรยาก็เสพยาด้วยกัน แต่ภรรยาเลิกได้ ส่วนตนเลิกไม่ได้ ภรรยาเลิกกับตนไป ตนจึงอาศัยอยู่กับพ่อและน้องสาว ซึ่งเมื่อก่อนน้องสาวก็เสพยาด้วยกัน แต่ก็เลิกเสพแล้ว ส่วนตนเลิกไม่ได้ จึงเปลี่ยนจากกัญชา โรยผงขาว มาเสพยาบ้าแทน แล้วผันตัวมาขาย ขณะเดียวกันตนมีประวัติเคยถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด และครอบครองยาบ้ามาก่อน แต่ก็เลิกเสพเลิกขายไม่ได้ เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร จึงขายยาบ้าหารายได้ใช้จ่าย แถมยังได้เสพยาด้วย เพราะตนเสพยาบ้าเยอะมาก วันละกว่า 10 เม็ด ที่ตนโวยวายใส่เจ้าหน้าที่เป็นเพราะตนหลุดและหลอน ส่วนจะให้ตนให้ข้อมูลเอเย่นต์ยาบ้า ตนทำไม่ได้ เพราะเคยมีบุญคุณต่อกัน เขาเคยช่วยเหลือตนในยามที่ตนล้ม  อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ แล้วจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวไปดำเนินคดี นายอ้วนได้สั่งเสียน้องสาวให้ดูตัวเองและดูแลพ่อให้ดี ส่วนตนเองต้องยอมรับสภาพ คงติดคุกหลายปี