พ่อชาวอเมริกันตามหาลูกสาวจนเจอ หลังพลัดพรากกัน 48 ปี
วันที่ 7 ส.ค. 2567 เวลา 07:39 น.
ชายชาวอเมริกันวัย 72 ปี บินข้ามประเทศตามหาลูกสาวที่ไทย หลังพลัดพรากกันนานกว่า 48 ปี แม้ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ก็ตาม (6 ส.ค.67) วันนี้จะพาไปติดตามเรื่องราวดีๆ และภาพแห่งความประทับใจของ นายเทอรี่ เฮาล์รี่ อายุ 72 ปี ชายชาวอเมริกัน และ น.ส.กาญจนา มิลเควิช อายุ 49 ปี หญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ชาว ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สองพ่อลูกที่พลัดพรากจากกันนานถึง 48 ปี แต่ทั้งคู่ก็ไม่ลดละความพยายามที่จะตามหาซึ่งกันและกัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนชาติเดียวกันที่มีภรรยาชาวไทย และเจ้าของโรงแรมชื่อดังใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จนทำให้ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ทันทีที่พ่อลูกได้เจอหน้าต่างฝ่ายก็ต่างก็ร้องไห้และโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ จากการสอบถาม น.ส.กาญจนา เล่าว่า เมื่อ 50 ปีก่อน นายเทอรี่ พ่อเลี้ยงของตนเอง ซึ่งเป็นทหารได้มาช่วยไทยรบกับเวียดนาม ก็พักอยู่ที่ จ.นครพนม และได้บังเอิญเจอกับ นางสุภาพร แม่ของตนเองซึ่งปัจจุบัน อายุ 73 ปี ซึ่งตอนนั้นแม่ตั้งครรภ์กับชาวอเมริกันอีกคนที่มารบช่วยไทยเหมือนกัน แต่ชายอเมริกันที่เป็นพ่อแท้ๆ กลับไม่ยอมรับแม่ แต่พ่อเลี้ยงกลับเป็นคนที่ดูแลตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์ จนคลอดตัวเองออกมา ก็ดูแลแม่และตนเองจนอายุได้ประมาณ 1 ขวบ พ่อก็เดินทางกลับประเทศ จากนั้นตนกับแม่ก็ไม่ได้เจอกับเขาอีกเลย แต่พอตนโตขึ้นก็พยายามโพสต์ตามหาพ่อมาตลอด เพราะแม้จะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่เขาก็ดูแลเราตั้งแต่เกิดก็ผูกพันกันเหมือนพ่อลูก และทราบภายหลังว่าพ่อก็พยายามตามหาตนกับแม่เหมือนกัน จนกระทั่ง ปี 2562 ก็สามารถติดต่อกันผ่านโซเชียลได้ จากนั้นก็สนทนากันทางเฟซบุ๊กมาตลอด ซึ่งพ่อบอกว่าจะมาหาตนกับแม่ที่ประเทศไทย แต่ปี 2562 เกิดวิกฤตโควิดระบาดทำให้ไม่สามารถเดินทางข้ามประเทศได้ แต่พ่อรับปากว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะมาหา กระทั่งวันที่ 31 ก.ค.67 ที่ผ่านมา พ่อได้เดินทางมาประเทศไทยตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ ตนเองกับแม่โดยไม่บอกล่วงหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้เคยส่งที่อยู่ให้พ่อไว้แล้ว โดยพ่อได้ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยบอกให้เพื่อนที่มีภรรยาชาวไทยให้มารับ แต่คลาดกันกับเพื่อนพ่อจึงนั่งรถทัวร์ มาลงที่ บขส.บุรีรัมย์ แล้วขึ้นแท็กซี่ไปที่ อ.นางรอง เพื่อจะไปตามหาบ้านลูกสาว แต่สื่อสารกับแท็กซี่ไม่เข้าใจ คนขับแท็กซี่จึงพาไปส่งที่โรงแรมนางรอง เพื่อพักผ่อนก่อน จากนั้นทางโรงแรมก็ช่วยตามหาตนเอง เมื่อทางโรงแรมบอกว่าพ่ออยู่ที่โรงแรมนางรอง ตนก็รีบเดินทางมาหาพ่อทันที เมื่อได้เจอหน้าพ่อก็ดีใจและตื่นเต้นมาก ไม่คาดคิดว่าหลังพลัดพรากกันมานาน 48 ปีจะได้เจอกันอีก ก็จะพ่อไปหาแม่ที่บ้านและพักอยู่ที่บ้าน หากมีโอกาสก็อาจจะเดินทางไปหาพ่อที่สหรัฐอเมริกาเหมือนกัน ด้าน นางสาวแทน พนักงานโรงแรมนางรอง บอกว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.67 ที่ผ่านมา แท็กซี่ได้รับผู้โดยสารมาส่งที่โรงแรม ก็พักอยู่ 1 คืน เขาพยายามจะสื่อสารว่ามาตามหาใครสักคน จนทราบว่าเขาเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกามาตามหาลูกสาวที่พลัดพรากกันมานาน จากนั้นเจ้าของโรงแรมจึงได้นำชื่อลูกสาวค้นหาในเฟซบุ๊ก จนพบว่ามีชื่อกาญจนาประกาศตามหาพ่อชาวอเมริกันก่อนหน้านี้ จึงได้โทรไปตามเบอร์ที่โพสต์เอาไว้ ก็ติดต่อและแจ้งว่าพ่อเขาอยู่ที่โรงแรม ลูกสาวก็แจ้งว่าจะเดินทางมาหาที่โรงแรมให้พ่อรอ พอเห็นทั้งคู่ได้เจอกันก็รู้สึกดีใจที่ทางโรงแรมได้มีส่วนช่วยให้พ่อลูกได้เจอกัน