ตร.สภ.เมืองนนทบุรี แจ้งข้อหา นช.บางขวาง หลังก่อเหตุวางยาตุ๋ยเพื่อน นช. ประวัติคดีเพียบ

วันที่ 6 ส.ค. 2567 เวลา 18:40 น.

ตร.สภ.เมืองนนทบุรี แจ้งข้อหา นช.บางขวาง ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น  หลังก่อเหตุวางยาตุ๋ยเพื่อน นช. ตรวจสอบประวัติคดีเพียบ ซ้ำเคยหนีคุก  จากกรณีที่ นช.บางขวาง ทำหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ ว่าถูก นช.ร่วมห้องขังวางยานอนหลับและข่มขืนกระทำชำเรา แต่คดีกลับไม่คืบหน้าจนทำให้ นช.ผู้ก่อเหตุได้ใจตะโกนบุลลีใส่ทุกวันคล้ายกับประจานให้เพื่อน นช.คนอื่น ๆ รู้ สร้างความอับอายจนเกิดความเครียด สภาพจิตใจย่ำแย่จนอยากฆ่าตัวตาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องขังของเรือนจำกลางบางขวางเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา จนต่อมา นช.ผู้เสียหายตัดสินใจยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือไปยัง ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ก่อนจะมีมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดตั้งทีมงานทนายความเพื่อช่วยเหลือทางคดีให้กับ นช.ผู้เสียหายคนดังกล่าว ล่าสุด (6 ส.ค.67) ความคืบหน้าในคดีดังกล่าว พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา รอง ผกก.หน.งานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า ตนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในคดีดังกล่าว ได้ลงพื้นที่เข้าไปในเรือนจำกลางบางขวาง เพื่อทำการสอบสวนพยานทั้งหมดซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ จำนวน 7 ปาก รวมทั้งสอบปากคำ นช.ทั้งผู้ก่อเหตุ ผู้เสียหาย และเพื่อน นช.ในเหตุการณ์รวม 4 คน พบว่า นช.ผู้ก่อเหตุได้กระทำความผิดจริงตามที่ นช.ผู้เสียหายร้องเรียน และมอบหมายให้ทางทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดี จึงได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้ได้พิมพ์ลายนิ้วมือ นช.ผู้ก่อเหตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะสามาถทำสำนวนส่งฟ้อง นช.ผู้ก่อเหตุให้กับทางพนักงานอัยการเพื่อสั่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป พ.ต.ท.บำเพ็ญ กล่าวอีกว่า ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้วพบว่า ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องขังซึ่งมี นช. 3 คนอยู่ด้วยกัน ในคืนเกิดเหตุ คือ นช.ผู้ก่อเหตุ นช.ผู้เสียหาย และ นช.ร่วมห้องขังอีกหนึ่งคน เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของทางเรือนจำให้ข้อมูลว่า เรือนจำแดน 10 ซึ่งเป็นแดนที่เกิดเหตุนั้น มีมาตรการควบคุมสิ่งของต้องห้ามเข้มงวดเป็นพิเศษอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นแดนควบคุมผู้ต้องขังที่มีโทษซ้อนโทษ จึงไม่มีโอกาสที่ นช.ในแดนดังกล่าวจะลักลอบนำยานอนหลับเข้าไปก่อเหตุได้ อย่างไรก็ตามทาง นช.ผู้เสียหาย เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปตรวจสอบและดำเนินคดีกับ นช.ผู้ก่อเหตุแล้ว สุขภาพจิตก็ดีขึ้น จากที่เคยวิตกกังวลว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เบาใจลง และหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ได้แยกขัง นช.ทั้ง 3 รายออกจากกันไปแล้ว จากการตรวจสอบประวัติของ นช.ผู้ก่อเหตุ พบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีมาในหลายข้อหา ทั้งคดียาเสพติด ลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ ก่อนที่ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปี 63 จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด จนนำตัวส่งฝากขังยังเรือนจำจังหวัดนนทบุรี แต่ต่อมา นช.ผู้ก่อเหตุรายนี้เกิดป่วยด้วยอาการไส้ติ่งแตก จึงถูกนำตัวส่ง รพ.พระนั่งเกล้า เพื่อทำการผ่าตัดรักษา โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ นช.รายนี้ได้อาศัยจังหวะขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำพลัดเปลี่ยนเวร หลบหนีไปออกจากโรงพยาบาลไป แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวกลับมาได้ในที่สุด จึงทำให้ นช.รายนี้ถูกส่งตัวไปฝากขังต่อที่เรือนจำกลางบางขวาง จนกระทั่งมาก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเพื่อนนักโทษชายร่วมห้องขังอีก และตะโกนบุลลีเพื่อน นช.ผู้เสียหายในทำนองว่าตกเป็นเมียแล้วอย่าสร้างปัญหา จนทำให้ นช.ผู้เสียหายเกิดความอับอายและเครียดจนอยากฆ่าตัวตาย จึงได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยังสภาทนายความเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือดำเนินคดีกับ นช.ผู้ก่อเหตุ