รวบสาวเอเยนต์บัญชีม้า ร่วมแก๊ง สคบ. ปลอม หลอกข้าราชการโอนเงินกว่า 7 แสนบาท
วันที่ 4 ส.ค. 2567 เวลา 15:20 น.
ตำรวจไซเบอร์ขยายผล รวบสาวเอเยนต์ #บัญชีม้า ร่วมแก๊ง สคบ. ปลอม หลอกข้าราชการโอนเงินกว่า 7 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้าง 5,000 บาทต่อบัญชี สั่งลูกเลี้ยง-เพื่อนจัดหา วันนี้ (4 ส.ค.67) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา บช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.4 บก.สอท.3 สืบสวนคดี พร้อมนำหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.167/2567 ลงวันที่ 28 มิ.ย.67 เข้าจับกุม น.ส.ทาริกา หรือ โม อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาฐานฉ้อโกง โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 มี.ค.67 มีมิจฉาชีพโทรหาข้าราชการหญิงรายหนึ่ง แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. อ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักผ่านเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายจะต้องไปยืนยันตนและปฏิเสธข้อกล่าวหากับทาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเกิดความกลัว แต่ขณะนั้นผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ทำให้ไม่สะดวกเดินทาง มิจฉาชีพจึงแนะนำให้ผู้เสียหายทำการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางไลน์แทน โดยคนร้ายให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนกับบัญชีไลน์ชื่อ “กองกำกับการปราบปรามการกระทำความผิดผู้บริโภค” และสนทนากับคนร้ายที่แอบอ้างเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. แจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน ต้องโอนเงินให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจสอบ จากนั้นได้ให้ให้ผู้เสียหายวิดีโอคอลคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จาก ปปง. และให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันชื่อ “AMLO” ที่ดาวน์โหลดผ่านทาง Google Chrome เมื่อติดตั้งสำเร็จ ได้ให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลและทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ตามที่แจ้ง สุดท้ายมิจฉาชีพได้ส่งหมายเลขบัญชีธนาคารให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อตรวจสอบ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปจำนวน 3 ครั้ง รวมทั้งสิ้น จำนวน 631,273.83 บาท ต่อมา มิจฉาชีพยังสั่งให้ผู้เสียหายกู้เงินจากแอปพลิเคชันบัตรสินเชื่อของธนาคารหนึ่ง ที่ติดตั้งอยู่ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย แล้วโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารผู้เสียหายเอง จำนวน 3 ครั้ง รวม 70,000 บาท จากนั้นมิจฉาชีพจึงหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินทั้งหมดในบัญชีที่เพิ่งได้มาให้ ปปง. ตรวจสอบทั้งหมดอีกครั้ง ผู้เสียหายหลงเชื่อทำตาม สุดท้ายรวมยอดเงินที่ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนไปทั้งสิ้น จำนวน 701,273.83 บาท เมื่อรู้ตัวจึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวน จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้จำนวน 10 ราย โดยสามารถจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 3 ราย ต่อมาสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาสำคัญของขบวนการซึ่งทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้าให้ขบวนการดังกล่าวนำไปใช้งาน ได้เดินทางไปมา เพื่อกบดานอยู่ตามพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ จึงได้ลงพื้นที่เฝ้าติดตามสะกดรอย จนพบว่าผู้ต้องหาได้เข้าพักในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.ภ.5 นำหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคามเข้าจับกุม น.ส.ทาริกา เบื้องต้น น.ส.ทาริกา ยอมรับสารภาพว่าตนได้กระทำผิดจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ทำให้มีรายได้น้อย ต่อมาได้มีผู้ชักชวนตนให้ทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคาร(บัญชีม้า) และโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด อ้างว่านำไปใช้ขายหวยออนไลน์ โดยมีค่าตอบแทนจำนวน 5,000 บาทต่อบัญชี เมื่อเห็นว่ามีรายได้ดีตนจึงตกลงทำ โดยตนจะสั่งให้ลูกเลี้ยงและเพื่อน ๆ ของลูกเลี้ยง ไปตระเวนรับซื้อสมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตร ATM มาจากที่ต่าง ๆ ในราคา 500 บาทต่อบัญชี เมื่อได้มาแล้วตนจะรวบรวมส่งให้คนร้ายทางพัสดุ จากนั้นคนร้ายก็จะส่งเงินสดค่าตอบแทนมาให้ตนทางพัสดุเช่นกัน แล้วจึงนำไปจ่ายส่วนแบ่งให้ลูกเลี้ยงและเพื่อน ๆ ประมาณ 1,000–3,000 บาทต่อบัญชี ซึ่งเพิ่งทำไม่ถึง 10 ครั้ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบหลักฐานว่าผู้ต้องหาเคยทำมาแล้วกว่า 30 ครั้ง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป