ญาติแทบขาดใจ! สาวขี่ จยย.ถูกรถไฟชนตาย

วันที่ 2 ส.ค. 2567 เวลา 16:31 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เด็กสาว 15 ปี ขี่จักรยานยนต์ไปเรียน จะข้ามทางรถไฟ ถูกรถชนไฟเสียชีวิต แม่รู้ข่าวร้องไห้แทบขาดใจ นี่เป็นวินาทีที่แม่ รู้ว่าลูกสาว อายุ 15 ปี ถูกรถไฟชนเสียชีวิต กรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจ ญาติ ๆ ต้องเข้ามาประคอง พาไปสงบสติอารมณ์ ขณะเดียวกันมีภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่ผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์จะข้ามทางรถไฟ ถูกรถไฟพุ่งชน ร่างกระเด็นตกลงไปในพงหญ้าข้างทางเสียชีวิตทันที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา บริเวณทางลักผ่าน ชุมชนทุ่งสว่าง ไปชุมชนหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟตู้สินค้า จอดอยู่ มีชาวบ้านจำนวนมากมุงดูศพที่พงหญ้าริมทางรถไฟ เป็นหญิงอายุ 15 ปี ชื่อเล่นว่า น้องต้นหลิว บ้านอยู่ในชุมชนวัดโพธิวราราม เขตเทศบาลนครอุดรธานี นักศึกษาชั้น ปวช.1 วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อกีฬาสีม่วง กางเกงวอร์มขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาวดำหลุดออกจากเท้า โทรศัพท์มือถือแตก หมวกกันน็อคหลุดจากศีรษะ ห่างจากศพเล็กน้อย พบรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน สภาพใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พังเสียหายอยู่ในพงหญ้า ชันสูตรพบกะโหลกศีรษะด้านขวายุบ คอหัก นายพัชระ พนักงานควบคุมท้ายขบวนรถไฟ เล่าว่า รถไฟขบวนนี้ ขนตู้สินค้ามาจากแหลมฉบัง ชลบุรี ปลายทางสถานีรถไฟหนองคาย ขับออกมาจากสถานีรถไฟอุดรธานี มาถึงที่เกิดเหตุ พนักงานขับรถไฟ เห็นผู้ตายขี่จักรยานยนต์ตัดหน้าแบบกระชั้นชิด ห้ามล้อไม่ทัน จึงชนเข้าอย่างจัง และได้จอดขบวนรถไฟและลงมาช่วยเหลือ แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว นายยุทธนา ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ที่เกิดเหตุเป็นทางข้ามทางรถไฟที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเอง ไม่มีเครื่องกั้นและสัญญาณเตือนเมื่อรถไฟมา ก่อนเกิดเหตุ ยืนอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์จากชุมชนหนองเหล็ก ข้ามทางรถไฟมาชุมชนทุ่งสว่าง เป็นจังหวะเดียวกันกับขบวนรถไฟมุ่งหน้ามาด้วยความเร็วและไม่มีเสียงหวูดสัญญาณ ผู้ตายน่าจะไม่เห็นรถไฟวิ่ง จึงขี่รถตัดหน้าขบวนรถไฟอย่างกระชั้นชิด ทีมข่าวไปที่ชุมชนวัดโพธิวรารามเพื่อแจ้งข่าวร้าย พอญาติ ๆ รู้ข่าว ก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ โดยเฉพาะยายและแม่เด็ก พอตั้งสติได้ แม่เด็กก็บอกกับทีมข่าวว่า เลี้ยงลูก 4 คน คนตายเป็นลูกคนที่ 2 พ่อเด็กเสียชีวิตหลายปีแล้ว แม่เด็กบอกด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน มีลางสังหรณ์แปลก ๆ ขนลุกตั้งแต่ขาทั้งสองข้างยันหัว มีความรู้สึกว่าใจหาย เหมือนจะเสียของรักอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะเสียอะไร ขณะที่ยายของผู้ตายบอกว่า ก่อนเกิดเหตุเพิ่งกลับมาจากทำงาน กำลังอาบน้ำจะเข้านอน เห็นหลานสาวเดินไปหยิบกุญแจรถ ขี่ออกจากบ้านไปเรียน แต่ปกติแล้ว หลานไม่ได้ใช้เส้นทางนี้ไปโรงเรียน ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ทางรถไฟ บอกว่า จุดนี้มักจะเกิดเหตุบ่อยครั้ง ส่วนตัวอยากให้เจ้าหน้าที่มาปิดจุดข้ามนี้ เพราะว่าอันตราย กลัวว่าสักวันจะเกิดกับลูกหลานตัวเอง