นโยบายกัญชาเหลือ 2 ทางเลือก หากปล่อยเสรี 4 ปี ผู้ป่วยเพิ่มหวิดแสนคน
วันที่ 31 ก.ค. 2567 เวลา 16:58 น.
นโยบายกัญชา เหลือ 2 ทางเลือก หากไร้กฎหมายควบคุมนาน 4 ปี ประมาณการผู้ป่วยจากกัญชา 9.5 หมื่นคน ป่วยจิตจากกัญชาเพิ่มขึ้น 7 เท่า ปัญหาอาจลุกลามจนแก้ไม่ไหว เครือข่ายแพทย์ฯ จี้นำกลับเป็นยาเสพติดก่อน แล้วเร่งออกกฎคุมใช้ทางการแพทย์เท่านั้น เครือข่ายแพทย์ นักวชิาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด นำเสนอบทวิเคราะห์ทางเลือกนโยบายกัญชา ส่งถึงหนังสือฉบับลงวันที่ 30 ก.ค.67 ถึงนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า หลังกัญชาถูกปลดออกจากการเป็นยาเสพติด ในวันที่ 9 มิ.ย.65 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นที่ไม่ว่าใครก็ตามสามารถใช้กัญชาเพื่อ สันทนาการได้ในประเทศไทย แม้แต่เด็ก (แม้ต่อมาจะมีมาตรการห้ามจำหน่ายกัญชาแก่เด็ก แต่ก็ไม่มีกฎหมายใดห้ามเด็กสูบกัญชาเลย) ประเทศไทยอยู่ภายใต้สภาวะกัญชาเสรี เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว แม้เหตุผลของการปลดกัญชาจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อสันทนาการก็ตาม แต่ผลกระทบจากการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการเป็นที่ ประจักษ์ต่อสังคม ทั้งด้านสุขภาพ สังคม และการเสพกัญชาของเยาวชน ขณะนี้มีทางเลือกของนโยบายกัญชา 2 ทางเลือก คือ 1. ใช้กฎหมายกัญชาควบคุม โดยไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด สมมติว่าประเทศไทยนำร่างกฎหมายกัญชา เข้าพิจารณาในครึ่งปีหลังของปี 2567 และใช้เวลา 2 ปี จึงผ่านสภาฯ จะได้กฎหมายกัญชาออกมาบังคับใช้ปลายปี 2569 ไทยจะตกอยู่ในสภาวะ “ใช้กัญชาเพื่อสนัทนาการ ได้เป็นเวลาถึง 4 ปี โดยประมาณการจำนวนผู้ป่วยติดกัญชาและโรคจิตจากกัญชาต่อเดือน ที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรณีไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ครบ 4 ปี ในปี 2569 จะมีผู้ป่วยติดกัญชาที่รับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ปีละ 95,148 คน และ 21,048 คน หรือเพิ่มขึ้น 6 และ 15 เท่า ตามลำดับ และจะมีผู้ป่วยโรคจิตจากการใช้กัญชาที่รับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ปีละ 54,048 คน และ 29,052 คน หรือเพิ่มขึ้น 7 และ 29 เท่า ตามลำดับ 2. นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แล้วเร่งทำกฎหมายกัญชา เพื่อให้กัญชากลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมของประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้ใช้เพื่อการแพทย์ได้ จำนวนผู้ป่วยทั้ง 4 กลุ่ม จะลดกลับลงมาสู่สภาวะปกติก่อนปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดใน ปี 2565 และเมื่อกฎหมายกัญชาผ่านสองสภาฯ ออกมาบังคับใช้ ไทยจะอยู่ภายใต้สภาวะใช้กัญชาเพื่อ สันทนาการได้” เป็นเวลาเพียง 2 ปี เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด จึงขอเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนตรี นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานบอร์ด ป.ป.ส. เร่งพิจารณาเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดทันที แล้วเร่งทำกฎหมายกัญชาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ปัญหากัญชาเพื่อสันทนาการลุกลามจนไม่อาจแก้ไขได้ในภายหลัง