บีทีเอสเผยต่อสู้ 3 ปี ศาลปกครองสูงสุดสั่ง กทม. จ่ายหนี้ 1.1 หมื่นล้าน
วันที่ 30 ก.ค. 2567 เวลา 17:15 น.
พิสูจน์ความจริง 3 ปี ศาลปกครองสูงสุด สั่ง กทม. จ่ายหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย บีทีเอสเผยแม้ กทม. พร้อมชำระหนี้ตามคำพิพากษา 1.1 หมื่นล้าน แต่ยังมีหนี้ส่วนอื่น ยอดรวมถึง 3.9 หมื่นล้าน ดอกเบี้ยเดินทุกวัน พร้อมเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน วันนี้ (30 ก.ค.67) นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และพ.ต.อ. สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษาประธานกรรมการ ร่วมกันแถลงการณ์ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ให้ร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน - วงเวียนใหญ่ - บางหว้า และช่วงอ่อนนุช – แบริ่ง (เดือน พ.ค.62 – พ.ค.64) และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต (เดือน เม.ย.60 ถึง พ.ค.64) จำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท นายคีรี กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดี ที่บีทีเอสได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง จนได้รับความเป็นธรรมจากศาลปกครองสูงสุด ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า เราทำงานอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ ให้กับหน่วยงานภาครัฐและประชาชน รับทราบมาโดยตลอด และ ณ วันนี้ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความพยายามที่บีทีเอสทำมาตลอดนั้นไม่สูญเปล่า นายคีรี กล่าวด้วยว่า บีทีเอสทำงานบนพื้นฐานความถูกต้อง และได้ปรึกษาทีมกฎหมายอย่างครบถ้วน ถ้าสัญญาไม่พร้อมหรือไม่ถูกต้อง ตนย่อมไม่ลงนามอย่างแน่นอน บีทีเอสเป็นบริษัทมหาชน ตนต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นทุกคน รวมถึงกลุ่มผู้โดยสาร ซึ่งตนยืนยันเสมอมาว่าจะไม่หยุดเดินรถอย่างแน่นอน ที่สำคัญคำพิพากษาเกี่ยวกับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ จะเป็นแนวทางในการพิจารณาคดีในหนี้ส่วนที่เหลือต่อไป ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบีทีเอสได้รับทราบจากข่าวของสื่อมวลชน ว่า กทม. พร้อมที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้จำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท แต่บีทีเอสอยากให้ กทม. และ KT คำนึงถึงยอดหนี้ในส่วนที่เหลือด้วย เนื่องจากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกวัน สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ค.67 จำนวนกว่า 39,402 ล้านบาท แบ่งเป็น • ยอดหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด วันที่ 26 ก.ค.67 ที่ให้ กทม. และ KT ร่วมกันชำระให้กับบีทีเอสเป็นเงินจำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท • ยอดหนี้ที่บีทีเอสได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง วันที่ 22 พ.ย.65 ให้ กทม. และ KT ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้กับบีทีเอสของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 (หนี้ค่าจ้างตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 ถึง ต.ค.65) เป็นเงินจำนวนกว่า 11,811 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง • ยอดหนี้ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน พ.ย.65 ถึง มิ.ย.67 ที่ยังค้างชำระ เป็นเงินจำนวนกว่า 13,513 ล้านบาท • ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคต ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นสุดสัมปทาน ปี 2585 อย่างไรก็ตาม บีทีเอส ยินดีและพร้อมที่จะเจรจากับ กทม. และ KT ในการหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้บริการสาธารณะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป ทั้งนี้ หากทั้งสองหน่วยงานมีแนวทางอื่น ๆ ที่อยากให้พิจารณา บีทีเอสก็ยินดี และพร้อมที่จะเจรจา หากข้อเสนอเหล่านั้นมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย