อัยการเลื่อนสั่งคดี “เจ๋งดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวกตบทรัพย์ อธ.กรมการข้าว 28 ส.ค.นี้

วันที่ 25 ก.ค. 2567 เวลา 11:54 น.

สอบสวนไม่เสร็จ อัยการเลื่อนสั่งคดี “เจ๋งดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวกตบทรัพย์ อธ.กรมการข้าว นัดใหม่ 28 ส.ค.นี้ ทั้งคู่จับมือ สู้ไปด้วยกัน มั่นใจมีหลักฐานยืนยันบริสุทธิ์ วันนี้ (25 ก.ค.67) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีตข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง กับพวกรวม 5 คน เดินทางมาพบพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 เพื่อฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ในคดีที่ถูกกล่าวหาร่วมกันเรียกรับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นจากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมารายงานตัวตามนัดเบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าโดนข้อหาอะไรบ้าง เพราะเท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชนทราบว่าถูกแจ้ง 6 ข้อหา แต่ที่รับทราบจากพนักงานสอบสวนนั้น ขณะนี้มีเพียงแค่ 4 ข้อหา โดยวันนี้ได้รับรายงานว่ามีการเลื่อนฟังคำสั่งคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวน เพิ่งส่งสำนวนมากที่อัยการเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้พนักงานอัยการพิจารณาสำนวนไม่แล้วเสร็จ หลังจากนี้ตนและภรรยาได้เตรียมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ เพราะมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเองไม่ได้หารือกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น โดยเฉพาะนายยศวริศที่เจอกันเพียงครั้งเดียว กระทั่งมาเจอกันในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และช่วงเวลาที่ผ่านมาตัวเองยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน เพราะยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ แต่ส่วนของการร้องเรียน ยอมรับว่า จะต้องมีการทบทวนบทบาทหน้าที่ อีกทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพราะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไปแล้วได้รับการตรวจสอบจนประสบความสำเร็จ ดังนั้น หลังจากที่ตัวเองถูกดำเนินคดี จึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นผลมาจากการที่ตัวเองเดินสายร้องเรียน เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง ด้านนายยศวริศ เปิดเผยว่า ในส่วนของตัวเองได้รับข้อมูลว่าถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้ทนายความส่วนตัว ไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการแล้ว โดยวันนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งเลื่อนก็มองว่าเป็นผลดีกับตัวเองและพวก  เนื่องจากจะทำให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณาสำนวนมากขึ้น ยืนยันตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แม้จะถูกกล่าวหา แต่ก็มั่นใจในพยานหลักฐาน ที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนประเด็นกับนายศรีสุวรรณนั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องเคลียร์ใจกันเป็นการส่วนตัว ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ได้รับทราบกจากนายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปราบการทุจริต ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานอัยการรับผิดชอบคดีดังกล่าว แจ้งว่าคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงให้ไปฟังคำสั่ง ในวันที่ 28 ส.ค. 67 เวลา 09.00น. ขณะเดียวกัน นายรชตได้พิจารณาเเล้วเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และได้ยื่นขออนุญาตต่อนายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ขอไม่ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด เเละปล่อยชั่วคราวไป โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต  มีคำสั่งอนุญาตไม่ฝากขังให้ปล่อยตัวชั่วคราวและให้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนด ในวันที่ 28 ส.ค.67 สำหรับคดีนี้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายยศวริศ  นายศรีสุวรรณ กับพวก มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต จนนำไปสู่การจับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมด โดยนายยศวริศ กับพวก ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด คนละ 6 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวน กองปราบปราม นำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา มาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสัมภาษณ์เสร็จ ทั้งคู่ได้จับมือให้กำลังใจกันและกัน และบอกว่าจะสู้ไปด้วยกัน ก่อนจะเดินขึ้นไปพบพนักงานอัยการ