จู่โจมค้นเรือนจำตรวจหาสารเสพติดผู้ต้องขัง

วันที่ 25 ก.ค. 2567 เวลา 10:23 น.

สนธิกำลังร่วมตำรวจ-ทหาร-ปกครอง-ปปส.จู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางขอนแก่น สุ่มตรวจหาสารเสพติดผู้ต้องขัง สั่งคุมเข้มทุกจุดเสี่ยงห้ามของต้องห้ามเล็ดลอดเข้าในเรือนจำเด็ดขาด เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 25 ก.ค.2567 ที่เรือนจำกลางขอนแก่น นายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมนายจักร ลิ่มบุตร ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ,ทหาร,ฝ่ายปกครอง ปปส.,ตชด,และชุดปฏิบัติการพิเศษเรือนจำกลางขอนแก่น จู่โจมตรวจค้นเป็นกรณีพิเศษ ภายในเรือนจำกลางขอนแก่นทุกซอกทุกมุม พร้อมทั้งตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้ต้องขังทุกราย เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ และการลักลอบนำสิ่งของต้องห้าม หรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในเรือนจำเด็ดขาด โดยชุดปฏิบัติการได้กระจายกำลังตรวจค้นเรือนนอนชาย-หญิง ,พื้นที่โรงอาหาร ,พื้นที่ฝึกฝีมือ ,แดนแรกรับ ,ห้องน้ำ ,โรงครัวรวมไปถึงสถานฝึกปฏิบัติงานต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ซึ่งผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของต้องห้ามแต่อย่างใด นายจักร เผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษดำเนินการตรวจค้นทุกวัน ตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้ ขณะที่การตรวจค้นพิเศษ หรือการสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ภายนอก เข้าทำการตรวจค้นโดยไม่ได้แจ้งให้กับผู้ต้องขังได้ทราบ ตามแผนปฏิบัติงานที่กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม อย่างเคร่งครัด ซึ่งผลการปฏิบัติไม่พบสิ่งของต้อห้ามหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่ความเข้มงวดของเรือนจำกลางขอนแก่นเด็ดขาดแน่นอน และทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะกับการเฝ้าระวังจุดเสี่ยง ที่คาดว่าจะมีการลักลอบเข้ามาภายในเรือนจำ ทั้งบริเวณประตุทางเข้า รวมทั้งพื้นที่รอบริมรั้วกำแพง ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น เผยอีกว่า คนเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ที่จะนำสิ่งของต้องหามเข้ามาภายในเรือนจำ ดังนั้นจะเห็นว่ามาตรการคุมเข้ม ในการเข้ามาภายในเรือนจำแยกส่วนชัดเจนระหว่างผู้ต้องขังที่ได้รับโทษเด็ดขาด ,เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ที่มาติดต่อราชการ ทุกคนต้องรับการตรวจตามระเบียบที่กรมราชทัณฑ์กำหนด มีเจ้าหน้าที่ประจำป้อมทั้ง 4 มุม ตรวจเข้มทุกความเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอก ขณะที่ช่วงเวลากลางคืนยังคงมีการจัดสายตรวจเดินเท้า ตรวจโดยรอบรั้วกำแพงและบริเวณภายในเรือนจำทุกแดน โดยชุดตรวจจะเดินตรวจตราทุกชั่วโมงตามมาตรการคุมเข้มที่กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดไว้ ขณะเดียวกันมีตำรวจ และฝ่ายปกครอง มาตรวจบริเวณด้านหน้าและโดยรอบเรือนจำ ตามความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และปัญหาการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามหรือสิ่งของที่ผิดกฎหมายเข้ามาภายในเรือนจำ ตลอดทั้งเป็นการสร้างความโปร่งใสในระบบบริหารจัดการภาครัฐต่อสายตาประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรและกรมราชทัณฑ์ต่อไป