รถพ่วง 18 ล้อ ขับเฉี่ยวชนรถจยย. เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 2

วันที่ 23 ก.ค. 2567 เวลา 14:37 น.

วันนี้ (23 ก.ค. 67) เมื่อเวลา 10.35 น. ร.ต.ท.ศุภชัย แช่มช้อย รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถพ่วง เฉี่ยวชนรถจยย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน แล้วบาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดบนถนน 345 บางคูวัด-ซ่อมสร้าง ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรึดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตร. จราจร อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ น.ส.ญาโณทัย อายุ 17 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ห่างไปเล็กน้อย มีรถ จยย ล้มคว่ำอยู่ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ ยังพบว่ามี น้องไนท์ อายุ 4 เดือน และ น้องบาส อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายและใบหน้า นั่งอยู่ริมทางเท้าโดยมีพลเมืองดีคอยดูอยู่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิฯ จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมกับรีบนำเด็กๆทั้งสองคน ส่ง รพ.ปทุมธานี ต่อมาได้มี น.ส.รัตติกาล อายุ 27 ปี เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกล่าวว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นน้องสะใภ้ของตน และเด็กๆ ทั้ง 2 คน คือหลาน โดยตนไม่ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร มีแต่คนรู้จักผ่านมาแล้วได้โทรไปบอกจึงรีบมาดู ทางด้าน นายคำแปว อายุ 43 ปี พ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนจะเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังยืนย่างหมูอยู่ ก็เห็นรถพ่วง 18 ล้อ ขับมาเบียดกับรถจยย. คันที่เกิดเหตุ จากนั้นรถจยย. ก็ล้มรถพ่วงคันดังกล่าวก็ได้ทับหัวของแม่เด็ก ซึ่งกำลังอุ้มลูกชายอยู่ในอก ก่อนที่รถพ่วงจะหลบหนีมุ่งหน้าไปทางสะพานปทุมธานี 2 ตนจึงรีบวิ่งมาดูแล้วอุ้มเด็กออกจากอ้อมกอดของแม่เด็ก พร้อมกับคนขับซึ่งเป็นเด็กผู้ชาย จากนั้นก็มีพลเมืองดีผ่านมา ช่วยกันโทรศัพท์แจ้งตำรวจและกู้ภัยฯ ร.ต.ท.ศุภชัย แช่มช้อย รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร พร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำรถจยย. ไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก ส่วนศพผู้เสียชีวิต ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และให้ญาติๆไปรับศพ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ทางด้านเจ้าหน้าที่ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เบื้องต้นได้มีพลเมืองดีนำคลิปวีดีโอจากกล้องหน้ารถมาให้ ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบและติดตาม ตัวคนขับรถพ่วงเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป