หญิงวัย 54 ปี ขับรถยนต์พวงมาลัยล็อก บังคับไม่อยู่พุ่งข้ามฝั่งชนเสาไฟฟ้า ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 23 ก.ค. 2567 เวลา 08:35 น.

วันนี้ (23 ก.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตร. สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างแรง ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 3 คน เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 26 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.) เขตราษฎร์บูรณะ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตร. มาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านอาหาร พบรถยนต์อยู่ในลักษณะจอดนิ่งสนิทอยู่บนทางเท้า หน้ารถยนต์คันดังกล่าวชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรงจนโคนเสาไฟฟ้าขาด และท้ายรถยนต์ยังพบกับรถสองแถวสีเขียว จอดนิ่งสนิทอยู่เช่นกัน โดยรถสองแถวสีเขียว ได้รับความเสียหายตรงบริเวณหน้ารถยุบตัว กระจกหน้าแตกละเอียด ตัวถังรถด้านซ้ายยุบตัว โดยมีคนขับรถสองแถว ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตร. อยู่ภายในที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบภายในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 3 คน อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล ราษฎร์บูรณะ อย่างเร่งด่วน จากการสอบถาม นายปรณต อายุ 71 ปี คนขับรถสองแถวเล่าว่า ตนขับรถมาตามทางปกติ มุ่งหน้า กม.9 พอถึงที่เกิดเหตุ รถคันยนต์คันเกิดเหตุก็พุ่งมาจากฝั่งตรงข้าม มาทางหน้ารถตนเลยแล้วไปเสยกับเสาไฟหน้าร้านนี้ ในรถตนมีตนเป็นคนขับ และมีผู้โดยสารข้างหลังอีก 1 คน แต่ไม่ได้เจ็บอะไร ส่วนรถตนก็พังเสียหาย จากการสอบถามจากคนนั่งข้างคนขับ ชื่อ คุณโอ อายุ 63 ปี เล่าว่า ตนนั่งข้างคนขับออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวฝั่งตรงข้ามกำลังจะเลี้ยวซ้ายไปทางแยกนาหลวง แต่จู่ๆ พวงมาลัยก็เลี้ยวซ้ายไม่ได้และเป็นจังหวะที่เหยียบคันเร่งพอดีรถเลยพุ่งไปทางตรงซึ่งข้ามฝั่งไปขึ้นทางเท้าชนกับเสาไฟและแอร์แบ็กในรถก็ทำงานพอดี ซึ่งจังหวะนั้นก็มีรถวิ่งผ่านไปคันนึงและรถสองแถวมาพอดีเลยทำให้ชนเสียหาย ส่วนตนนั่งมากัน 3 คน ก็ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก ของเข็มขัดนิรภัย และแอร์แบ็กกันตามร่างกาย ต่างคนก็อยู่ในอาการตกใจ เบื้องต้นผู้ขับรถยนต์และผู้ที่นั่งโดยสารมาด้วย ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก และมีอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ เป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ตร. ยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดขึ้นจากการผิดพลาดของระบบภายในรถยนต์จริงหรือไม่ และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนเสาไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เปลี่ยนเสาไฟฟ้าต้นใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว