หนุ่มวัย 36 ปี พนง.การไฟฟ้า มารอรับนายที่อุดรฯ ยืมรถจยย. ของน้าซิ่งรับลม ก่อนแหกโค้งเสียชีวิต

วันที่ 23 ก.ค. 2567 เวลา 07:55 น.

วันนี้ (23 ก.ค. 67) ร.ต.ท.ชานนท์ โสนะโชติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจยย. แหกโค้งชนกับหลักลายริมถนน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน เหตุเกิดอยู่บริเวณทางโค้งถนนริมคลองระบายน้ำรอบเมืองอุดรธานี ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.อุดรธานี อบต.นาดี และอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางโค้งฝั่งมุ่งหน้าไป บ.ศรีดอนภู่ ริมถนนพบรอยรถเสียหลักเป็นทางยาวประมาณ 5 เมตร ชนกับหลักลายจนเอียงเกือบล้ม ที่ป่าหญ้าข้างทางห่างจากถนนประมาณ 2 เมตร พบรถจยย. สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย ถัดไปบนคันนาห่างไปอีกประมาณ 2 เมตร พบศพนายศุภวิชญ์ อายุ 36 ปี สภาพสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น สีดำ นอนหงายกะโหลกหน้าผากยุบ คอหัก มีเลือดออกจมูกและปาก จากการสอบสวนนายสิวณัฐ อายุ 36 ปี เพื่อนของผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้ไปนั่งเล่นกัน ที่ร้านขายรถจยย. ซึ่งเป็นร้านของน้าชายผู้ตาย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กม. ช่วงเย็นพวกตนเห็นว่าบรรยากาศดี จึงชวนกันออกมาขี่รถเล่นเพื่อรับลม มากัน 2 คัน ใช้เส้นทางเลียบคลองระบายน้ำ มุ่งหน้าออกมาทะลุบริเวณถนนอุดร-หนองบัวลำภู เพื่อวนกลับไปบ้านถ่อนอีกครั้ง โดยตนขับรถนำหน้าออกมา เมื่อมาถึงทางโค้งตนทิ้งห่างพอประมาณ จนมาชะลอก่อนออกมาเส้นทางหลัก เพราะมองไปไม่เห็นผู้ตายแล้ว เข้าใจว่าผู้ตายคงใช้เส้นทางลัดระหว่างหมู่บ้าน จึงกลับไปรอที่ร้าน รออยู่นานก็มีคนโทรมาบอกว่าผู้ตายรถแหกโค้งลงข้างทาง จึงรีบออกมาดูพร้อมกับน้าชายเขา มาถึงก็เห็นเสียชีวิตแล้ว ด้านนายปิติ  อายุ 50 ปี น้าชายผู้ตาย เล่าว่า ตนเปิดร้านขายรถจยย. มือสอง แต่ก่อนหลานชายเคยมาอยู่ช่วยงานที่ร้าน จนได้ไปทำงานการไฟฟ้า และมีครอบครัว มีลูกชาย 2 คน ตอนนี้ได้โทรศัพท์บอกญาติพี่น้อง และลูกเมียหมดแล้ว ก็ได้แต่ปลอบใจให้ทำใจเพราะเขาเสียไปแล้ว มันเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตร. สันนิษฐานว่า ผู้ตายขับรถมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง คาดว่าผู้ตายบังคับรถไม่อยู่ จึงแหกโค้งไปชนกับหลักลายริมถนน จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตร. ได้ทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และถ่ายรูปไว้ทั้งหมด ก่อนจะทำการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนศพได้มอบให้อาสาฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป