วิสามัญหนุ่มคลั่ง ชักมีดฟันตำรวจบาดเจ็บ
วันที่ 19 ก.ค. 2567 เวลา 16:32 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มแม่จัน เกิดคลุ้มคลั่ง ถือดาบยาวเดินขู่ชาวบ้านบนถนนกลางดึก ตำรวจพร้อมฝ่ายปกครองเข้าควบคุมสถานการณ์ โดนฟันเข้าที่หน้าแข้ง ตัดสินใจยิงป้องกันตัว เสียชีวิตคาที่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 21.30 น. วานนี้ (18 ก.ค.) ตำรวจ สภ.แม่จัน รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดข่มขู่ชาวบ้าน บอกว่าอยากจะฆ่าคน เหตุเกิดในหมู่บ้านสันธาตุ หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ช่วงเกิดเหตุ จ่าสิบตำรวจ สุทธิเกียรติ พนมไพรสกุล ผบ.หมู่ สภ.แม่จัน สายตรวจประจำตำบล พร้อมฝ่ายปกครอง รีบไปตรวจสอบ เจอตัว นายวิฑูรย์ อายุ 28 ปี ชาวบ้านในตำบลแม่คำ ถือมีดดาบยาว 1 เล่ม มีดพกสั้น 1 เล่ม ยืนอยู่กลางถนนในหมู่บ้าน ระหว่างที่ขอกำลังสนับสนุนจาก สภ.แม่จัน เพื่อเข้าระงับเหตุ ปรากฏว่า นายวิฑูรย์ ถือมีดปรี่เข้ามาทำร้าย จ่าสิบตำรวจสุทธิเกียรติ และพวก คมมีดไปโดนขาขวา จ่าสิบตำรวจสุทธิเกียรติ บาดเจ็บ ก่อนที่ จ่าสิบตำรวจสุทธิเกียรติ จะตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว กระสุนถูกร่างของ นายวิฑูรย์ ล้มลงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแม่จัน ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่ อยู่ในซอย 8 ลึกเข้าไปในซอยประมาณ 50 เมตร พบรอยเลือดของผู้เสียชีวิตตามถนน มีรอยวงกลมจุดที่คาดว่าจะเป็นปลอกกระสุนปืนของตำรวจ และจุดที่ นายวิฑูรย์ โดนยิง กระทั่งมาล้มเสียชีวิต มีภาพน่าสลดใจ นางแสงเดือน มารดาของผู้เสียชีวิต ลักษณะท่าทางมึนเมา พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง นั่งร้องไห้อยู่ในจุดเกิดเหตุ พูดจากพร่ำเพ้อไปเรื่อย ถามว่าใครเป็นคนทำให้ลูกชายเสียชีวิต และบอกกับทีมข่าวว่าจะไม่ยอมจบ จะเอาเรื่องคนที่ทำให้ลูกชายตายให้ถึงที่สุด แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ติดใจในสาเหตุการตายของลูกชาย โดยตั้งแต่ข้อสังเกตว่าลูกชายไม่เคยออกไปไหน รถจักรยานก็จอดอยู่ในบ้าน ครั้งนี้จะต้องมีคนหลอกลูกชายออกไปฆ่าอย่างแน่นอน ทีมข่าวไปที่บ้านผู้เสียชีวิต อยู่ลึกเข้าไปในซอย ห่างจากจุดพบกองเลือดประมาณ 100 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่ป้าของผู้เสียชีวิตสร้างให้น้องสาวหรือแม่ของคนผู้เสียชีวิตและ นายวิฑูรย์ อยู่อาศัย เพราะ แม่ของนายวิฑูรย์ มีอาการติดเหล้างอมแงม ส่วน นายวิฑูรย์ ก็ชอบดื่มเหล้าเมายาเป็นประจำ นายอุทัย น้าของผู้ตาย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนอนหลับไปแล้ว แต่มีคนมาเรียก บอกว่าหลานถือมีดอาละวาด และจะเข้าไปทำร้ายตำรวจ แต่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยสนิทกับหลานเท่าไหร่ แต่เรื่องติดยาก็คงมี ชาวบ้าน บอกว่า ช่วงเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตเดินถือมีดดาบยาว 1 ฟุต อยู่ในซอย พูดจาพร่ำเพ้อบอกว่าจะไปฆ่าคน ชาวบ้านที่ขี่รถผ่านมาก็หวาดกลัว โทรหากำนัน กำนันประสานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้ออกไปดูที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านอีกคนเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุ เห็นผู้เสียชีวิตโวยวาย ถือมีดแกว่งไปมา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประเมินแล้วว่า น่าจะเอาไม่อยู่ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ กระทั่ง จ่าสิบตำรวจสุทธิเกียรติ ขี่รถมาถึงที่เกิดเหตุ ถูกผู้เสียชีวิตไล่ฟัน ตำรวจต้องวิ่งหนี ก่อนชักปืนประจำกาย ขนาด 9 มม. รัวยิงไปกว่า 10 นัด เพื่อป้องกันตัว กระสุนเข้าตามลำตัวเกือบทั้งหมด และมีกระสุนนัดหนึ่งแฉลบไปถูกชาวบ้านที่มากับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ชาวบ้านที่แวะเวียนมาสอบถามเหตุการณ์ที่บ้านผู้เสียชีวิต พูดตรงกันว่า ผู้เสียชีวิตติดยาบ้า ก่อนเกิดเหตุได้ถือมีดไปอาละวาดหน้าบ้าน ขณะที่บางส่วนก็วิจารณ์ตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะยิงปืนหลายนัด ทั้ง ๆ ที่น่าจะยิงแค่ 1-2 นัด เพื่อระงับเหตุ ป้าผู้เสียชีวิต เล่าถึงชีวิตที่แสนจะรันทด บอกว่า เลี้ยงดูหลานชายมาตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน พ่อไปอยู่อีกหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอแม่จัน ส่วนแม่ของคนตายซึ่งเป็นน้องสาวไปมีสามีใหม่ที่เบตง ต่อมาสามีใหม่ที่อยู่เบตงเสียชีวิต ต้องจ้างรถเอาน้องสาวกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน ค่าใช้จ่ายก็ช่วยออกให้ตลอด ส่วนหลานชายเคยติดยาและติดเหล้า เคยส่งไปบำบัดมาได้สักระยะจนอาการดีขึ้น ก่อนจะไปอาศัยอยู่กับพ่อ ไปช่วยพ่อทำงานในไร่ แต่เมื่อ 10 วันที่แล้ว พ่อเอามาส่งให้อยู่กับแม่ ให้เงินลูกไว้ 5,000 บาท แต่ไม่บอกว่าลูกชายอาการติดยากำเริบ จนกระทั่งค่ำที่ผ่านมา หลานเกิดอาการคลั่ง ตำรวจมาระงับเหตุก็โดนฟัน ตำรวจก็เลยต้องยิง เข้าใจว่าถ้าตำรวจไม่ยิงก็อาจจะมีคนอื่นถูกหลานทำร้าย เพราะในซอยมีทั้งเด็ก คนแก่ และคนพิการ แต่ก็มองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ป้าบอกด้วยว่า ส่วนงานศพ ตอนนี้โลงจะใส่ก็ยังไม่มี ครอบครัวก็ไม่มีเงินเพราะพ่อคนตายไม่ได้ทำประกันหรือมีสมาชิกอะไรไว้ เงินค่าทำศพในหมู่บ้านก็น่าจะได้ประมาณ 20,000 กว่าบาท คิดว่าอาจจะให้ทางโรงพยาบาลจัดการเผาศพให้เรียบร้อย คงไม่นำศพกลับมาประกอบพิธีที่บ้าน