ตร. พยัคฆภูมิพิสัยรวบโจรมักน้อยชิงทอง น้ำหนักแค่ครึ่งสลึง อ้างซื้อไปง้อสาว
วันที่ 19 ก.ค. 2567 เวลา 14:28 น.
คนร้ายทำทีมาซื้อต่างหูทองอ้างจะเอาไปง้อแฟน สบโอกาสคว้าออกจากร้านทอง เจ้าหน้าที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตามรวบตัวมาได้ วันนี้ (19 ก.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม นำโดย พ.ต.อ.ชัชชัย ไหมวันทา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพยัคฆภูมิพิสัย พ.ต.ท.สมภพ ปาปะใน รอง ผกก.สส.สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ชุดสืบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย และชุดสืบสวน สภ.ปทุมรัตต์ ร่วมกันจับกุมนายโชคชัย อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ต.หนองแคน อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นต่างหูทอง 2 คู่ จากร้านทองสมพิศ ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณฝายเก็บน้ำ พื้นที่อำเภอปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด โดยคนร้ายได้ขับรถยนต์ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าร้านทองสมพิศ คนร้ายลงจากรถ ตำหนิรูปพรรณคนร้าย สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเหลือง กางเกงขายาวสีเหลือง ใส่รองเท้าแตะ เดินเข้าไปในร้าน และขอดูต่างหูทอง โดยคนร้ายอ้างกับคนขายว่า จะเอาไปง้อแฟน ทางร้านได้หยิบต่างหูให้ดู 2 คู่ เป็นทอง 1 คู่ อีกคู่เป็น รูปหัวใจประดับเพชร ซึ่งขณะที่ทางเจ้าของร้านจะหยิบทองให้ดูอีก 1 คู่ ก็ปรากฏว่าคนร้ายคว้าต่างหูทั้งสองคู่ วิ่งหนีออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทางเจ้าของร้านจะแจ้งตำรวจ พ.ต.อ.ชัชชัย ไหมวันทา ผู้กำกับการสถานีตำรวจพยัคฆภูมิพิสัย กล่าวว่า ภายหลังจากได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการติดตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด พบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านหัวหมู คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปยังพื้นที่ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด จึงได้ประสานข้อมูลกับทาง สภ.ปทุมรัตต์ จนพบรถต้องสงสัย มีลักษณะคล้ายกับรถที่ก่อเหตุ คือมีสติ๊กเกอร์คำว่า อัลเมร่าสายคลอง มิตรภาพที่บนท้องถนน No.24 ที่กระจกหลัง ล้อรถเป็นล้อแม็กซ์ ตรงตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด จึงได้ไล่ติดตามและสกัดจับกุม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นหาเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ และทรัพย์สินเป็นต่างหูทองที่ได้วิ่งราวไป ก่อนจะนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทอง ในอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ซึ่งทองที่คนร้ายชิงไป มีมูลค่าประมาณ 9,000 บาท ซึ่งจากการตรวจหาสารเสพติดก็พบว่าผู้ต้องหาฉี่สีม่วง ผู้ต้องหา เล่าเพิ่มเติมว่า เลือกที่จะก่อเหตุชิงทองที่ร้านทองร้านนี้ เพราะว่าตั้งอยู่ที่เปลี่ยว พอขโมยเสร็จก็จะขับรถหนีไปทาง อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ดได้เลย ทองที่ได้ก็จะเอาไปใช้จ่าย ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามว่า ทำไมเอาไปน้อยจัง ผู้ต้องหาก็ตอบว่า อยากได้ เงินที่ได้เอาไปใช้จ่าย ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษทางร้านด้วย ตำรวจนำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มตั้งแต่ขับรถมาวนดูลาดเลาที่หน้าร้าน จากนั้นก็ขับรถไปจอดในที่จอดรถของศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ตรงข้ามร้าน ก่อนที่จะขับรถเข้ามาก่อเหตุชิงทอง ด้านนางสมพิศ เจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า ตอนที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุก็มาถามว่า มีสร้อยคอ 2 สลึงไหม จะเอาไปง้อแฟน พอดีวันนั้นฝนตกทั้งวัน ประกอบกับตนเองอยู่กับสามี เป็นคนแก่แค่ 2 คน ก็เลยไม่ได้เอาถาดทองที่เป็นสร้อยคอออกมา ก็จะมีแต่ถาดทองที่อยู่ด้านหน้า เป็นทองเล็ก ๆ น้อย ๆ คนร้ายก็คือขอดูต่างหู รูปหัวใจ และเอาต่างหูแบบตุ๊งติ้ง มาให้ดู พอคนร้ายสบโอกาส ก็คว้าทองแล้ววิ่งออกจากร้านไป ตอนนั้นก็ตกใจถามแฟนว่าทองเราไปไหน แฟนก็บอกว่าเขาเอาไปแล้ว ตอนนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก กริ่งหรือออดเรียกตำรวจก็มี ก็ไม่กด เบอร์โทรก็มี ทำอะไรไม่ถูก ไม่ได้เอะใจ ไม่คิดว่าจะเป็นคนร้ายด้วยซ้ำ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยที่สามารถติดตามตัวคนร้ายมาได้โดยใช้เวลาเพียง 2 วัน