ประชาชนตอบรับ 30 บาทรักษาทุกที่

วันที่ 18 ก.ค. 2567 เวลา 14:55 น.

มาถูกทาง! ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ตอบรับการรักษาทุกที่นำร่อง 45 จังหวัด เพียง 5 เดือนเศษ สามารถช่วย ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ลดการขาดงาน ของประชาชนได้อย่างมาก โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ สำหรับประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่นอกจากจะไปรักษาที่โรงพยาบาลตามหน่วยบริการปฐมภูมิ ประจำตามสิทธิ แล้วยังสามารถไปรับบริการสุขภาพที่หน่วยบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ หรือหน่วยบริการนวัตกรรมจากภาคเอกชน เป็นทางเลือกให้ประชาชนเพิ่มเติมได้ เป็นทางเลือกใหม่ สะดวก ลดการรอคิว ล่าสุด สปสช. เปิดเผย จากโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่” พบว่าขณะนี้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่เจ็บป่วยเล็กน้อย ไม่รุนแรงมาก ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแต่สามารถไปที่คลินิกเวชกรรม ร้านยา หรือแม้แต่คลินิกพยาบาล ของเอกชนที่เป็นหน่วยบริการในระบบ รับบริการได้เลย โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ไม่ว่าสิทธิบัตรทองจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถใช้ได้ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนหาหมอหลังเลิกงานได้ ทั้งนี้ 30 บาทรักษาทุกที่ เริ่มต้นเมื่อ มกราคม 2567 ในพื้นที่นำร่องเฟสแรก 4 จังหวัด เฟสที่ 2 อีก 8 จังหวัดในเดือนมีนาคม 2567 และเฟสที่ 3 อีก 33 จังหวัดในเดือนพฤษภาคม 2567 รวมเป็น 45 จังหวัด ตอนนี้เห็นความสำเร็จเบื้องแรกแล้ว     โดยผลสำเร็จ 30 บาทรักษาทุกที่ คือ 1.ระยะเวลาใช้บริการ ลดลงกว่าครึ่ง จาก 127 นาที/ครั้ง เหลือ 56 นาที/ครั้ง (ระยะเวลาเริ่มวัดจากห้องบัตรจนถึงห้องรับยา) 2.ลดค่าใช้จ่ายของประชาชน (เฉลี่ยลดลง 160 บาทต่อครั้ง) 3.ลดการขาดงานของญาติและผู้ป่วย 4.สามารถใช้บริการที่หน่วยบริการนวัตกรรม ได้แก่ คลินิกเอกชนและร้านยาคุณภาพที่เข้าร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ผลลัพธ์ที่สะท้อนความสำเร็จ 1.ประชาชนลดการเดินทางไปโรงพยาบาลใหญ่หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัด 2.ประชาชนไปรักษานอกเวลาราชการได้ที่หน่วยบริการนวัตกรรม (ร้านยาคุณภาพและคลินิกเอกชนในระบบ สปสช.) 3.จำนวนผู้ป่วยใช้บริการข้ามเครือข่าย ในเฟส 1 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่่เฟส 2 มีจำนวนลดลง 4.หน่วยบริการนวัตกรรมเป็นทางเลือกแรกของผู้ป่วย พบผู้ป่วยมากกว่า 1 ใน 4 (26.53%) เลือกใช้บริการในหน่วยนวัตกรรม 5.ผู้ป่วยที่มาใช้บริการในหน่วยนวัตกรรมมากกว่า 2.6 ล้านคน 5.6 ล้านครั้ง ใช้เวลารอคอยไม่เกิน 30 นาที 6.การจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ (กรณีเหตุสมควรและบริการหน่วยนวัตกรรม) ทั้ง 3 เฟส 45 จังหวัด จำนวน 558 ล้านบาท สำหรับหน่วยบริการนวัตกรรม คือ ร้านยาคุณภาพและคลินิกเอกชนแต่ละประเภทที่เข้าร่วมกับ สปสช. เพื่อให้บริการประชาชนตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ได้แก่ 1.ร้านยาคุณภาพ ดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ ปรึกษาเภสัชกรและรับยาตามอาการ 2.คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น รับบริการทำแผล ล้างตา ล้างจมูก เปลี่ยนสายยางให้อาหาร ฉีดยาตามแผนการรักษาของแพทย์ ตรวจรักษาโรคเบื้องต้น 32 กลุ่มอาการ เช่น เป็นไข้ ตัวร้อน ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น 3.คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น ตรวจแล็บ 22 รายการ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ อุจจาระ ตามใบสั่งตรวจจากแพทย์ 4.คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น บริการฟื้นฟูผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง สมองได้รับบาดเจ็บ กระดูกสะโพกหัก ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ จะได้รับการบำบัดฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด 5.คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟูลออไรด์ 3 ครั้งต่อคนต่อปี 6.คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น ให้บริการตรวจรักษาโรคแบบผู้ป่วยนอก 7.คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น นวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อการรักษา