สยองฆาตกรรมหมู่ ในโรงแรมกลางกรุง

วันที่ 17 ก.ค. 2567 เวลา 07:01 น.

สนามข่าว 7 สี - มาที่คดีตายหมู่ เป็นนักท่องเที่ยวเวียดนาม 6 คน ภายในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ปมข้อสงสัยที่มีอยู่มากมาย ทั้งจำนวนแขกที่เข้าพักแล้วกลายเป็นศพ ไม่ตรงกับที่แจ้งกับทางโรงแรม กลุ่มผู้เสียชีวิตเข้ามาไทยทำอะไร และทำไมถึงถูกฆ่า แต่ที่แน่ ๆ ตำรวจฟันธงเป็นฆาตกรรม ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็เชิญญาติและผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำอย่างเข้มข้น เดี๋ยวไล่เรียงเรื่องนี้ไปทีละประเด็นพร้อมกัน สยองฆาตกรรมหมู่ ในโรงแรมกลางกรุง อย่างที่เกริ่นไป คดีนี้มีนักท่องเที่ยวจากเวียดนาม จองเข้าพักที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ จำนวน 7 คน และทยอยเข้าพักตั้งแต่วันที่ 13 ไล่มาถึง 14 กรกฎาคม โดยเช็กอินเข้าพักจริงเพียง 5 คน กระจายพักที่ชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง และชั้น 5 (ห้องสวีต) 1 ห้อง และมีกำหนดออกจากโรงแรมคือ 15 กรกฎาคม แต่ปรากฏว่าไม่มีการแจ้งเช็กเอาต์ จนวันรุ่งขึ้น (16 ก.ค.) เจ้าหน้าที่โรงแรมเข้าไปตรวจสอบห้องพักที่ชั้น 5 ก็ไปพบนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้นอนเสียชีวิตอยู่ 6 คน บริเวณโซนรับแขกด้านหน้า 4 คน และในห้องนอน 2 คน ก็รีบแจ้งผู้บริหาร ก่อนแจ้งตำรวจ นำมาสู่การลงพื้นที่สอบสวน ซึ่งเรื่องนี้ระดับบิ๊กที่มีทั้ง นายกรัฐมนตรี, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะเข้าตรวจสอบ ก็มีผลสรุปขั้นต้นว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คน ในจำนวนนี้ไม่ได้ถือสัญชาติเวียดนาม 2 คน แต่ถือสัญชาติอเมริกัน แบ่งเป็นชายและหญิงอย่างละ 3 คน ที่สำคัญหนึ่งในนี้เป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังจากเมืองดานัง และคดีนี้ตำรวจก็ยืนยันเป็นการฆาตกรรม โดยอาจถูกวางยาพิษ และยังได้เทียบเคียงข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. ก็พบว่า 5 คน ที่เสียชีวิต มีประวัติเข้ามาตรงกับที่ สตม. บันทึกไว้ ยกเว้นอีก 1 คน ที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ รวมถึงคนที่ 7 ที่มีการแจ้งไว้ว่าจะเข้าพักด้วย แต่ปมสงสัยอีก 1 คนที่เสียชีวิต ไม่ได้มีชื่อแจ้งพัก และคนที่ 7 ซึ่งแจ้งจองห้องพักไว้ ตกลงได้มาหรือไม่ ที่สำคัญมูลเหตุจูงใจในการฆ่าหมู่ ก็มีคำชี้แจงเรื่องนี้ ไปฟังเสียงกัน ขณะที่ นายกฯ ก็ลงพื้นที่เช่นกัน ยืนยันการฆาตกรรมหมู่จะไม่กระทบการท่องเที่ยวไทย และเมื่อช่วง 01.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจก็ได้นำหลักฐานในจุดเกิดเหตุ ทั้งกระเป๋าเดินทาง 8 ใบ กระเป๋าเป้ 1 ใบ รองเท้า และของใช้อื่น ๆ ของผู้เสียชีวิต มาตรวจสอบเพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินี พร้อมเชิญญาติและผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต จำนวน 5 คน อาทิ เลขานุการเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย, เพื่อนของน้องสาวผู้เสียชีวิตที่อาศัยในไทย และพนักงานโรงแรม เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เบื้องต้นพบว่าทั้ง 6 คน มาจากประเทศเวียดนาม แต่เข้าไทยไม่พร้อมกัน และเข้าไทยด้วยด้วยวีซานักท่องเที่ยว ส่วนผลตรวจค้นกระเป๋า พบลักษณะเตรียมพร้อมที่จะเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม รวมทั้งพบยาชนิดเม็ดรักษาโรคทั่วไป แต่ต้องส่งไปให้ พฐ. ตรวจสอบเทียบเคียงยาที่พบในจุดเกิดเหตุว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ ขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คน ก็ส่งชันสูตรแล้ว ยังต้องรอผล จึงจะทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งคาดว่าวันนี้จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อ.อ๊อด คาดผู้เสียชีวิต 6 คน ถูกสารไซยาไนด์ ขณะที่ อาจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว 3-4 โพสต์ ทั้งตั้งข้อสังเกตถึงกรณีนี้ และกึ่งเชิง ฟันธงถึงปมการเสียชีวิตของ 6 คน ใจความสรุปว่า "ที่ดื่มหมดไป คือ ชา ของเหลวในกระติกน้ำร้อน ออกฤทธิ์รวดเร็วอย่างนี้ ช่างเหมือนกับไซยาไนด์ครับ"