ลอบค้า 2 ลูกเสือโคร่ง และงาช้างมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

วันที่ 16 ก.ค. 2567 เวลา 08:58 น.

ดักจับ 2 ผัวเมีย ลักลอบค้าลูกเสือโคร่ง 2 ตัว ราคาตัวละ 250,000  บาท และงาช้างแอฟริกาและงาช้างไทย 26 ท่อน หนักกว่า 100 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ขยายผลเตรียมค้นเป้าหมายในตัวเมืองสุรินทร์ วันนี้ (16 ก.ค. 67) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากสายข่าว และประสานงานร่วมกับชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรดม ว่าจะมีการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยทราบว่าจะมีการ ซื้อ-ขาย ลูกเสือโคร่ง 6 ตัว และงาช้าง เมื่อวานนี้ จึงมอบหมายให้ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (พญาเสือ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วางแผนวางกำลัง เพื่อดักซุ่มเข้าจับกุม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประจำจุดนัดพบซื้อขาย บริเวณวงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ดักซุ่มในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งพบรถเก๋งต้องสงสัย ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ หยุดรถอยู่บริเวณจุดนัดพบซื้อ-ขายของกลาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพบผู้ต้องหาภายในรถ 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ทราบชื่อดังนี้ทราบชื่อ นายกรฤทธิ์ อายุ 51 ปี และ นางมนัส อายุ 48 ปี จากการตรวจสอบของกลางพบ - “ลูกเสือโคร่ง” (Panthera tigris) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 2 ตัว เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 2  เดือน สภาพลูกเสือโคร่งมีอาการท้องเสีย ขาดน้ำ อิดโรย และซูบผอม - งาช้างแอฟริกา จำนวนแบบกิ่ง จำนวน 2 คู่ และงาช้าง 26 ท่อน  น้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม - ผลิตภัณฑ์งาช้าง 5 รายการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,000,000 บาท เนื่องจากลูกเสือโคร่งมีอาการท้องเสีย ซูบผอม และอิดโรย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ให้สัตวแพทย์ตรวจสภาพร่างกาย โดยช่วงแรก ลูกเสือโคร่งมีอาการตื่นกลัวและไม่มีแรง จึงได้ให้น้ำเกลือแก่ลูกเสือโคร่งตัวผู้และให้นมทั้งสองตัว ซึ่งขบวนการลักลอบค้าลูกเสือโคร่ง ส่วนมากจะนำไปเป็นอาหาร (เปิบพิสดาร) โดยจะมีการลักลอบผสมพันธุ์เสือโคร่ง เมื่อลูกเสือโคร่งเกิดจะไม่มีการแจ้งการเกิดตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และลักลอบค้าลูกเสือราคาตัวละ 250,000  บาท งาข้าง กิโลกรัมละ 25,000 บาท ทางคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึด/จับกุม นำส่ง สภ.ดม จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินการขยายผลหมายค้นบ้านเป้าหมายในตัวเมืองสุรินทร์อีกครั้ง