เหยื่อถูกร่างทรง ปู่ฤาษี อนาจาร-รักษามะเร็ง
วันที่ 15 ก.ค. 2567 เวลา 16:27 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ศาลออกหมายจับสองผัวเมีย เปิดสำนัก อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษี รักษาโรคมะเร็งหญิงสาววัย 20 ปีแบบพิศดาร บังคับแก้ผ้า ใช้น้ำมันทาถูของสงวน ล่าสุดพบเหยื่อเพิ่มเป็นเด็กหญิงวัย 12 ปีและ 14 ปี กรณี นางสาวอ้อ อายุ 20 ปี ไปขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวและหน่วยงานรัฐ ให้ตรวจสอบสำนักฤาษีแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังถูกพ่อและแม่บังคับให้ไปรักษาโรคมะเร็งกับผู้ที่ใช้ชื่อว่า "หมอพุทธ" ซึ่งเป็นผู้หญิง วิธีการรักษาให้เปลือยท่อนบนและใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกาย อย่างไรก็ตาม ญาติของผู้เสียหายไม่เชื่อว่า การรักษาแบบนี้จะหายจากโรคมะเร็งได้จริง จึงได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไม่พบว่าเป็นโรคมะเร็งตามที่ฤาษีกล่าวอ้าง นอกจากนี้ ผู้เสียหายบอกด้วยว่า มีเหยื่อเป็นเด็กหญิงอายุ 12 และ 14 ปี ที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกับตนอีกด้วย ขณะเดียวกัน ทีมข่าวมีคลิปที่หมอพุทธและสามีชื่อว่า หมอเขียว กำลังนวดตัวเหยื่ออีกรายเป็นเด็กหญิง อายุแค่ 12 ปี อ้างว่ารักษาโรคมะเร็ง ขณะที่แม่ของผู้เสียหาย ใส่ชุดขาว นั่งอยู่ปลายเท้า ทีมข่าวได้คุยกับนางสาวอ้อ ระบุว่า เหตุการณ์เกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่ วันที่ 5 กรกฎาคม หลังจากมารดาของตนซึ่งไปเป็นลูกศิษย์ของหมอพุดและหมอเขียวและพักอยู่ที่สำนักฤาษี ได้มาบอกว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูกจากการทำนายของหมอพุทธ ต้องเข้ารับการรักษา นางสาวอ้อ ทนรบเร้าจากแม่ไม่ไหว เนื่องจากแม่ของตนเป็นลูกศิษย์ของหมอพุทธ เมื่อไปถึงได้ทำพิธี ด้วยการให้ตนเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมผ้าถุง แล้ว 2 ผัวเมีย คือหมอพุทธและสามีคือหมอเขียว ได้ใช้น้ำมันทาไปทั่วร่างกายของตน ขณะที่ทาน้ำมัน หมอเขียวได้ใช้มือจับอวัยวะเพศนานหลายนาทีจนเสร็จพิธี แล้วยังบอกให้มารักษาอีก 2 วัน และมีการกระทำเช่นเดิม ตนจึงได้ตัดสินใจเข้ามาพักกับเพื่อนในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี และเข้าขอความช่วยเหลือจากนักข่าว จนเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) พ่อได้มารับและพาไปที่สำนักหมอพุทธและถูกกระทำเช่นเดิม จึงได้ขอความช่วยเหลือไปที่สายด่วน พม. ภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นางสาวอ้อไปตรวจร่างกาย และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับหมอพุทธ และสามี ในข้อหาร่วมกันกระทำอนาจารกับหญิงที่อายุเกิน 15 ปี อย่างไรก็ตาม นางสาวอ้อ ผู้เสียหายระบุว่า ยังมีเหยื่อที่เข้ารับการรักษาในลักษณะเดียวกับตนอีก 2 รายเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี และ 14 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าคุ้มครองและนำตัวเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนปากคำโดยสหวิชาชีพ มีข้อมูลจากญาติของผู้เสียหาย อ้างว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านจำนวนมากที่หลงเชื่อเจ้าสำนักรายนี้แล้วไปรักษาด้วยวิธีดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง เคยมีคนในหมู่บ้านไปรักษากับเจ้าสำนักรายนี้มาแล้วแต่ก็ไม่หายจากอาการป่วย สุดท้ายก็เสียชีวิต และล่าสุดศาลจังหวัดไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี อนุมัติหมายจับ นายถาวร เหมือนแก้ว อายุ 47 ปี และ นางวิภา เหมือนแก้ว อายุ 50 ปี ในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นและเป็นการกระทำโดยใช้อวัยวะอื่นซึ่งมีใช่อวัยวะเพศ ล่วงล้ำอวัยวะของบุคคลนั้น เบื้องต้นผู้ต้องทั้ง 2 รายให้การปฎิเสธ อ้างว่าเป็นการรักษาอาการป่วยของผู้เสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้นำตัว 2 ผัวเมียไปชี้ที่เกิดเหตุเพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวน ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียง ต่างพากันส่งเสียงตะโกนด่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยส่วนใหญ่ต้องการให้ครอบครัวของผู้ก่อเหตุย้ายออกไปจากหมู่บ้าน ทีมข่าวได้คลิป เด็กหญิงอายุ 12 ปี ที่ทางเจ้าสำนักดังกล่าวอ้างว่า เด็กป่วยเป็นโรคมะเร็ง ต้องรักษาด้วยการใช้น้ำมันนวด ในคลิปเด็กใส่ผ้าถุง มีหมอพุุทธใส่เสื้อยืดสีเทาและลูกศิษย์ ใส่เสื้อเสื้อยืดสีขาวช่วยกันจับตัวเด็กเพื่อจะทาน้ำมัน แต่เด็กขัดขืน ต่อมามียายของเด็กมาช่วยจับหลานนอนลงกับพื้น ซึ่งกรณีนี้ทาง พม.สุราษฎร์ธานี ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.วิภาวดี แล้ว