หนุ่มหลอนยา! เผาบ้านวอด ก่อนบอกด้วยความภูมิใจ เป็นยังไง ฝีมือผมเยี่ยมไหม

วันที่ 13 ก.ค. 2567 เวลา 15:34 น.

ผลพวงยาเเสพติด! หนุ่มหลอนยา อาละวาดจะฆ่าแม่-พี่ชาย ก่อนจุดไฟเผาบ้านวอด บอกด้วยความภูมิใจ "เป็นยังไง ฝีมือผมเยี่ยมไหม" 13 ก.ค. 67 นี่คือสภาพบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 6  ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่กำลังถูกเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องช่วยกันดับไฟที่ลุกไห้ แต่สุดท้ายเพลิงได้ไหม้บ้านเสียหายทั้งหลังเหลือเพียงเสาบ้าน โดยนายบุญเติม สีลาสม อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านของนางสมัย อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คือนายอุทิศ อายุ 39 ปี และนายมนัส อายุ 33 ปี แต่เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายมนัส จะฆ่านางสมัย ผู้เป็นแม่ จนต้องหนีออกจากบ้าน เพราะนายมนัส อาละวาดทำลายข้าวของ และรื้อฝาบ้านที่ชั้นสองออกมาทั้งหมด นางสมัยจึงออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับญาติต่างหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุ ประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายอุทิศ วิ่งไปหาที่บ้าน ให้ช่วย เพราะถูกนายมนัส ไล่ทำร้ายและจะฆ่าทิ้ง ในขณะเดียวกันนายมนัส ก็ตามพี่ชายไปติด ๆ โวยวายจะฆ่าพี่ชายให้ได้ พี่ชายจึงหลบหนีไป นายมนัส จึงบอกว่า จะเผาบ้านทิ้ง จากนั้น นายมนัสก็เดินกลับมาที่บ้าน ประมาณ 30 นาที ก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา จึงโทรแจ้งตำรวจและแจ้งดับเพลิงมาดับไฟ ส่วนนายมนัสหายตัวไป กระทั่งช่วงสาย ๆ นายมนัส เดินกลับมาที่บ้าน ซึ่งเป็นช่วงที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุซ้ำ และนางสมัย ผู้เป็นแม่ เดินทางกลับมาที่บ้าน จึงพบตัวนายมนัส พอดี  ซึ่งได้มนัสพูดด้วยความภูมิใจว่า “เป็นยังไง ฝีมือผมเยี่ยมไหม” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมาย ด้านนายอุทิศ พี่ชายนายมนัส พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณบ้านที่ถูกไฟไหม้ จนกลายเป็นเถ้าถ่าน พร้อมกับเปิดเผยว่า น้องชายเสพยาบ้ามานาน และเคยถูกจับในคดียาเสพติด ติดคุกหลายปี พ้นคุกออกมาก็มาเสพยาบ้าต่ออีก จนมีอาการคลุ้มคลั่ง โดยในปี 2566 จนถึงปัจจุบัน น้องชาย อาการหนัก แม่และผู้ใหญ่บ้าน ได้ประสานตำรวจมานำตัวไปบำบัดหลายครั้ง แต่พอตำรวจมาถึงบ้าน ก็ไม่เอาตัวไป เพราะน้องชายมีอาการปกติ และเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา น้องชายอาละวาดอีก และพยายามจะฆ่าตนกับแม่ ทำให้แม่ต้องหลบไปอยู่บ้านญาติ ส่วนตนก็ออกไปอยู่ทุ่งนา น้องชายได้รื้อฝาผนังของบ้านบนชั้นสอง ออกจนหมด ก่อนเกิดเหตุ ประมาณเที่ยงคืน ตนได้กลับเข้ามาดูบ้าน ก็พบกับน้องชายนอนในบ้าน แล้วเกิดอารมณ์ไม่พอใจที่ตนกลับเข้ามาที่บ้าน โวยวายและถือมีด ถือท่อนไม้จะทำร้าย ปากก็บอกว่าจะฆ่าทิ้งแล้วเผาศพไปพร้อมกับเผาบ้าน ด้วยความกลัวจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน น้องชายก็ตามไป จึงหนีกลับไปที่นา โดยไม่คิดว่า น้องชายจะเผาบ้านจริง จนมองเห็นเปลวไฟจึงเดินกลับมาที่บ้านก็พบว่าบ้านถูกไฟไหม้หมดทั้งหลังแล้ว เชื่อว่าน้องชายลงมือเผาบ้านจริง ๆ หลังลงมือเผาบ้านแล้วน่าจะเดินออกจากที่เกิดเหตุ และกลับมาในช่วงสาย ๆ และถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ จากการสอบสวนว่า นายมนัส ให้การรับสารภาพว่า เผาบ้านเพราะไม่พอใจที่แม่กับพี่ชายไม่อยู่บ้านด้วย จึงเผาบ้านเรียกร้องความสนใจ โดยเผาตู้เสื้อผ้า คิดว่าจะดับไฟได้ แม่กับพี่ชายก็จะกลับมาอยู่ด้วย โดยก่อนจะลงมือเผานั้นได้เสะพยาบ้า 1 เม็ด จากนั้นก็ลงมือเผา แต่ไฟลามอย่างรวดเร็ว จึงหนีออกจากบ้านไปนอนที่นา จนตื่นขึ้นมาช่วงสายก็เดินกลับมาที่บ้าน หลังการสอบสวน ได้แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ที่เป็นโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย นำตัวเข้าห้องควบคุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป