รวบ 2 วัยรุ่นมือผลิตป้ายทะเบียนปลอมส่งขายออนไลน์ทั่วไทย
วันที่ 13 ก.ค. 2567 เวลา 12:33 น.
ตำรวจไซเบอร์บุกร้านผลิตป้ายทะเบียนปลอมกลางกรุง รวบ 2 วัยรุ่นมือผลิต ส่งขายออนไลน์ทั่วไทย ฟันรายได้กว่า 6 แสน (13 ก.ค.67) สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สืบพบเบาะแส การลักลอบจำหน่ายแผ่นป้ายทะเบียนยานพาหนะปลอมผ่านแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ จึงได้ทำการตรวจสอบ และทดลองสั่งซื้อแผ่นป้ายทะเบียนจากร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว จำนวน 1 แผ่น ราคา 498 บาท ชำระเงินผ่านระบบจ่ายเงิน ของแฟลตฟอร์มดังกล่าว เมื่อตรวจสอบสินค้าที่ได้รับ พบว่าป้ายทะเบียนยานพาหนะดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับที่กรมการขนส่งทางบกผลิตขึ้นเพื่อใช้ในราชการ แต่ไม่มีลายน้ำและไม่มีสัญลักษณ์จากกรมการขนส่งทางบก เจ้าหนาที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนทราบแหล่งผลิต เบื้องต้น พบข้อมูลประวัติการขายสินค้าประเภทแผ่นป้ายทะเบียนยานพาหนะให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมาแล้ว จำนวน 1,131 รายการ โดยส่งสินค้าให้ลูกค้าไปทั่วประเทศ คิดเป็นรายได้รวมกว่า 600,000 บาท อีกทั้ง ยังพบข้อมูลความเชื่อมโยงกับบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “Welovecarplate รับทำป้ายทะเบียนรถยนต์ทุกประเภท” และเว็บไซต์ “Weloveplate” ซึ่งมีการระบุข้อความบนหน้าเว็บไซต์ว่า “รับทำป้ายทะเบียนรถยนต์ทุกประเภทแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นป้ายรถยนต์, มอเตอร์ไซต์, ป้ายแดง และป้ายทะเบียนรถชนิดอื่นๆ ทุกรูปแบบ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวได้สำเร็จ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนนำกำลังเข้าตรวจค้น ร้านที่ตั้งอยู่ริมถนนตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พบนายอนันต์ดา อายุ 24 ปี และนายศิริวัธร์ อายุ 27 ปี อยู่ภายในร้าน จากการตรวจค้น พบอุปกรณ์สำหรับการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถปลอมอาทิ เครื่องปั๊มแผ่นป้าย, เครื่องตัด, แผ่นอลูมิเนียมที่ใช้ในการทำแผ่นป้ายทะเบียน, แม่พิมพ์ตัวเลข และตัวอักษรชนิดต่างๆ, สีน้ำมัน และป้ายทะเบียนรถที่ผลิตเสร็จแล้วพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ อยู่ภายในบริเวณร้าน จากการสอบถามทั้ง 2 คนยอมรับว่าเป็นพนักงาน มีหน้าที่ร่วมกันจัดทำแผ่นป้ายทะเบียนรถ โดยรับข้อมูลการสั่งทำแผ่นป้ายทะเบียนรถผ่านแอปพลิเคชันไลน์จากเฮียที่เป็นนายจ้าง โดยทั้ง 2 สามารถผลิตแผ่นป้ายทะเบียนได้มากถึง 40-50 แผ่นต่อวัน และจะถูกนำไปจำหน่ายในราคาประมาณแผ่นละ 400-450 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ” และ “ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท” พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนายจ้าง อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผล เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อให้การป้องกันปราบปรามขบวนการดังกล่าวเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาด ตลอดจนขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากต้องการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับป้ายทะเบียนรถ ขอให้ติดต่อกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการเท่านั้น มิเช่นนั้น อาจตกเป็นเหยื่อหรือผู้ต้องหาของขบวนการปลอมแปลงป้ายทะเบียนรถได้