เขตติดต่อพื้นที่ ราชบุรี-นครปฐม น้ำในคลองเสีย ทำปลาลอยตายเกลื่อน
วันที่ 8 ก.ค. 2567 เวลา 15:37 น.
เขตติดต่อพื้นที่ ราชบุรี-นครปฐม น้ำในคลองเสีย ทำปลาลอยตายเกลื่อน คาดออกซิเจนน้ำมีน้อยมาก เกษตรกรเลี้ยงกุ้งก็ได้รับผลกระทบ 8 ก.ค. 67 ที่บริเวณริมคลองชลประทาน หมู่ที่ 9 ต.สระกระเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม เขตติดต่อพื้นที่ ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งมีคลองชลประทานไหลผ่านเข้าพื้นที่ของเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามของ จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะนี้เต็มไปด้วยชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งราชบุรี และนครปฐม ได้นำอุปกรณ์การจับปลามาดักจับปลาในคลองชลประทาน เนื่องจากมีชาวบ้านสังเกตเห็นปลาหลากหลายชนิด เช่น ปลาสร้อยขาว ปลาตะเพียน ปลากด ปลาสวาย ปลาช่อน ปลานิล ลอยหัวขึ้นบนผิวน้ำเพื่อขึ้นมาหายใจ ซึ่งสภาพน้ำในคลองนั้นมีสีดำคล้ำ บริเวณพงหญ้ามีปลาทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ลอยตายเกลื่อน บางตัวก็ลอยหัวขึ้นมาหายใจ คาดว่าออกซิเจนน้ำมีน้อยมาก จากการสอบถามชาวบ้านที่ใช้อุปกรณ์จับปลาทราบว่า ได้มาจับปลากันตั้งแต่เช้ามืด จะมีปลาตัวใหญ่ ๆ เช่น ปลากด ลอยโผล่ขึ้นเหนือน้ำจำนวนมาก จึงได้ใช้ปืนลูกศรยิง บางคนก็ใช้แหทอดจับได้ไปคนละจำนวนมาก แต่ไม่ทราบว่าที่ปลาลอยหัวขึ้นมาบนผิวน้ำเกิดจากสาเหตุอะไร ด้านนายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ผู้ประกอบกิจการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม อ.บางแพ ก็ให้ข้อมูลว่าปัญหาน้ำเสียส่งผลให้ปลาลอยตายเกลื่อน มองว่าน้ำเสียมาจากหลายส่วนของต้นน้ำ เช่น น้ำเสียจากชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ มีโรงงานต่าง ๆ อีกที่ไม่มีบ่อพัก ใช้โอกาสที่ช่วงหน้าฝนได้สูบน้ำทิ้งลงมาปะปนกับน้ำในคลองชลประทาน ซึ่งทางคลองชลประทานจะใช้น้ำดีส่งเข้ามาให้ เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ขณะเดียวกันถ้าทุกคนเอาคลองน้ำดีมาใช้แล้วระบายน้ำเสียทิ้งนั้น เป็นการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ มลภาวะก็ส่งผลกระทบตามมาอีก ในนามของนายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทยเห็นว่า เราพัฒนาไปไกลแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ราชบุรี มีทั้ง GI ของการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม สัตว์น้ำที่มีเกษตรกรเพาะเลี้ยง อำเภอบางแพเป็นอำเภอที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามมากที่สุดในประเทศไทย แต่เจอมลภาวะแบบนี้จะทำให้ภาพลักษณ์เสียไป จึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรม ชลประทาน กรมควบคุมพิษ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ด้วย ถ้าจะพัฒนาไปด้วยให้ดูด้วยว่าสิ่งไหนที่จะส่งผลกระทบต่อมวลรวม ขอให้ช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเริ่มเป็น แต่ได้กลายเป็นปัญหามาต่อเนื่อง ไม่มีผู้ใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เคยขับรถขึ้นไปยังพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ปรากฏว่าค่าน้ำที่เช็คเป็นระยะขึ้นไป ค่าน้ำจะค่อนข้างดีขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงต้นน้ำซึ่งเป็นน้ำที่ดีสุด แต่ระหว่างที่ย้อนขึ้นไปสภาพน้ำแย่มาก นั่นหมายถึงทุกคนไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม สังเกตบริเวณชายคลองใหญ่ ๆ จะมีมอเตอร์ติดตั้งไว้สูบน้ำทิ้ง เคยไปดูเห็นกำลังสูบน้ำดำ มีฟอง ปลาตายเกลื่อน ซึ่งน้ำเสียในคลองชลประทานนั้นจะส่งผลกระทบปัญหากับเกษตรกรเลี้ยงกุ้ง เพราะถ้าสูบน้ำไปก็ใช้ไม่ได้ สภาวะน้ำไม่ปกติ ถ้าเห็นแบบนี้เมื่อสูบเข้าบ่อเลี้ยงก็จะเกิดการระบาดของโรค ส่งผลให้กุ้งตาย สัตว์น้ำตาย เพราะค่า PH อัลคาไลน์ ค่าไนไตรท์สูงมาก จนปลาไม่สามารถอยู่ได้ กุ้งจะตายหมด ซึ่งพื้นที่ราชบุรี ฝั่งซ้ายเป็นแหล่งต้นน้ำ ไหลไปลงที่ ต.โพหัก อ.บาแพ ไหลไป อ.ดำเนินสะดวก การที่น้ำเสียไหลมาแบบนี้จะส่งผลให้ปลาจะน็อกตายทั้งหมด ตนเองยังไม่ได้ประสานหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบแต่อย่างใด แต่เห็นมีชาวบ้านมาจับปลากันเป็นตัน ๆ มีรถน้ำแข็งมารอรับซื้อไปกันจำนวนมาก จึงฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย