เหิมหนัก กลุ่มลักลอบตัดไม้ เห็นอดีตจนท.ป่าไม้ รีบเผ่นขึ้นรถกระบะ ก่อนขับชนเปิดทางหนี

วันที่ 8 ก.ค. 2567 เวลา 10:03 น.

ตกใจเห็น อดีตจนท.ป่าไม้ กลุ่มลักลอบตัดไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ ทิ้งมีด-เลื่อย ขึ้นรถกระบะขับชน อดีตจนท. เปิดทางหลบหนี โชคดีกระโดดหนีทัน ตรวจพบต้นยูคาถูกตัดเหลือแต่ตอ 20 ต้น วันนี้ (8 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรุณ สิงห์โต ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย นายศุภกร ศรีสุระ พนักงานพิทักษ์ป่า เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พบ.1 (ยางชุม), เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบุรี ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอชะอำ สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ป่าสงวนแห่งชาติป่าชะอำ-บ้านโรง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ้านโรงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในพื้นที่ ม.5 บ้านไร่เนิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวมแปลงที่ดินทั้งสิ้น 4 จุด เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 68 ตารางวา หลังได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มบุคคลรวม 3 ราย ลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีไม้อยู่เต็มรถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน พยายามขับหลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบต้นยูคาขนาดใหญ่กว่า 20 ต้น ถูกตัดโค่นไปเหลือแต่ตอไม้ และพบมีดง้าว 1 เล่ม เลื่อย  1 ปื้น ของผู้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ด้าน นายแนบ เฟื่องฟู อดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ผู้พบเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา พบกลุ่มบุคคลเป็นผู้ชาย 2 คน หญิง 1 คน ลอบตัดไม้ และมีไม้อยู่เต็มรถกระบะ จึงตะโกนถามว่าเข้ามาตัดไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติฯ ได้อย่างไร เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นตนก็หลบหนีทันที โดยถอยรถกระบะชนและทับรถจักรยานยนต์ของตน เพื่อเปิดทางหลบหนี ทำให้รถจักรยานยนต์ของตนที่จอดขวางอยู่เสียหาย ส่วนตนซึ่งนั่งอยู่บนรถกระโดดหลบได้ทัน จึงรีบโทรประสานเจ้าหน้าที่และได้ทำการถ่ายรูปไว้บางส่วนให้มาตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ ก่อนเข้าแจ้งความเอาผิดกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในข้อหา แผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง ทำไม้หรือเจาะ สับ เผา ทำอันตรายโดยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้าม ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้างแผ้วถางเผาป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อติดตามตัวกลุ่มคนผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป