บุกจับพระฉี่ม่วง หัวร้อนบุกเอาปืนจ่อหน้าโยม ไม่พอใจไม่ยอมขายที่ดินให้

วันที่ 7 ก.ค. 2567 เวลา 17:22 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากแหล่งข่าวของกันจอมพลังแจ้งว่า หนุ่มจากกาฬสินธุ์มาขอให้กันจอมพลังช่วย เนื่องจากตนกับพ่อถูกพระด่าเป็นประจำ เนื่องจากไม่พอใจที่ตนไม่ยอมขายที่ดินให้ จนวันเกิดเหตุพระได้บุกเข้ามาในบ้านของตน และถือไม้มาไล่ตี ตนจึงวิ่งหนี แต่พระไม่หยุด กลับไปเอาปืนลูกซองที่วัดมาวิ่งไล่ต่อในบ้าน ตนพยามหลบ แต่พระเห็นจึงหันลูกซองมาจ่อหน้า เมื่อเห็นตนถ่ายคลิปเหตุการณ์อยู่จึงหยุด และเดินกลับไป แต่ฝากว่า “มึงอยู่ในบ้านนี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวจะเอาลูกน้องมาจัดการทั้งหมด” จากนั้นตนกับพ่อจึงพากันหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวความปลอดภัย ซึ่งทราบมาว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปในวัดตลอด แถมที่วัดยังมีวันรุ่นแวะเวียนกันเข้ามา โดยกันจอมพลังได้รับปากช่วย เตรียมกำลังบุก” ล่าสุดวันนี้ (7 ก.ค. 67) เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กันจอมพลัง” พร้อมด้วยผู้เสียหายได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.เขาวง ที่ สภ.เขาวง อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่ กัน จอมพลัง จะเปิดเผยว่า วันนี้เรามีคลิปเห็นพระถือปืนลูกซองเดินล่าชาวบ้าน เป็นพระอายุ 50 ปี เข้าไปในบ้านของชาวบ้าน แล้วเอาปืนจ่อหน้าเขา ถ้าไม่เห็นจังหวะที่เขาถ่ายคลิปอยู่ ผมว่าเขาถูกยิงไปแล้ว ผมคิดว่าเขาจบชีวิตไปแล้ว แล้วมันเป็นพฤติกรรมที่ผมบอกเลยว่า พระควรที่จะมีจิตใจเอื้ออาทร ควรที่จะมีสติมากกว่าคนธรรมดา เพราะครองผ้าเหลืองอยู่ วันนี้จากหลายภาคส่วนก็มีความเห็นว่าทำไมพระต้องมีพฤติกรรมแบบนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ตรงนี้ได้อย่างไร มีทั้งฝ่ายปกครอง ทีมของท่านผู้การฯ จ.กาฬสินธุ์ ทีมผู้กำกับ สภ.เขาวง ซึ่งก็จะได้พากันไปลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทางพระว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทางท่านผู้กำกับยืนยันว่าดำเนินคดีแน่นอน ต่อมาได้มีการลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ไปตรวจค้นกุฎิของพระรูปดังกล่าว พบมีอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก แต่เป็นคนละกระบอกที่ชาวบ้านถ่ายคลิปไว้ในวันเกิดเหตุ คาดจะมีอีก 1 กระบอกที่ยังซ่อนไว้ และได้สอบถามพระว่าได้ดื่มไหม ได้เสพไหม พระก็บอกว่าไม่ได้ดื่มไม่ได้เสพ แต่พอเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสารเสพติดแล้วก็พบปัสสาวะสีม่วง และยังพบขวดสุราที่อยู่ในกุฎิ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพระไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เขาวง เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป