เรียกผู้เสียหายซักเบาะแส หาคนร้ายจี้ชิงเงิน

วันที่ 5 ก.ค. 2567 เวลา 11:22 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ได้วงจรปิดชัด ๆ มาแล้ว ว่าคนร้ายที่จี้ชิงเงิน 3.3 ล้านบาท ลงมือก่อเหตุแบบไหน อย่างไร ตำรวจนำข้อมูลนี้ไปเปรียบเทียบกับคดีเก่า พอจะเห็นเค้ารางแล้วว่าใครเป็นคนลงมือ ภาพวงจรปิดชัด ๆ กันอีกที คนร้ายมีด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์รอเพื่อนก่อเหตุ ส่วนคนที่ลงมือ ยืนจ้องรอเหยื่อเดินไปที่รถ แล้วตามเข้าไปในรถลงมือก่อเหตุทันที จากนั้น 30 วินาที ต่อมา ประตูรถเปิดออก แต่ยังไม่มีใครผิดสังเกต จนผ่านไปอีก 20 วินาที คนร้ายถึงจะเดินออกมา แล้วค่อยวิ่งไปขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนที่จอดรออยู่ ส่วนกล้องวงจรปิดมุมนี้ จะเห็นว่า คนร้ายวิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อย่างลนลาน ในมือถือสิ่งของคล้าย ๆ ปืนอยู่ นี่คือสาเหตุที่ทำไมไม่มีการตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนบนรถ และทั้งวงจรปิดมุมที่ 2 และ 3 จะสังเกตได้ว่า ท้ายรถจักรยานยนต์ของคนร้าย มีป้ายทะเบียนติดอยู่ แล้วยังมีส่วนผู้เสียหายคนหนึ่ง วิ่งตามถ่ายรถของคนร้ายไปด้วย ซึ่งนี่พอจะเป็นเบาะแสให้ตำรวจตามสืบสวนขยายผลต่อได้ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจได้เรียกสอบปากคำพยานไปแล้ว 5 ปาก ประกอบด้วย ผู้เสียหาย คนที่นั่งมาในรถกับผู้เสียหาย 2 คน, รปภ.ธนาคาร และคนที่ขี่รถจักรยานยนต์นำทางให้ผู้เสียหาย แต่ก็ยังไม่มากพอ ยังมีประเด็นติดใจสงสัยอยู่ ตำรวจจึงเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำอีกครั้ง ขณะเดียวกันมีรายงานการสืบสวนว่า ได้นำแผนประทุษกรรมคดีเก่ามาเปรียบเทียบกับลักษณะการลงมือก่อเหตุในคดีนี้ แล้วไปเจอเบาะแสบางอย่าง ที่ตำรวจกำลังสงสัยว่า อาจเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากชัดเจนว่าใช่คนร้าย ก็จะได้ไปขอศาลออกหมายจับต่อไป