รวบแล้ว! มือเผาธนาคาร พบมีบัตรรักษาอาการป่วยจิตเวช

วันที่ 28 มิ.ย. 2567 เวลา 08:49 น.

รวบแล้ว! มือเผาธนาคาร สาขาจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ถือมีดอยู่ในห้องนอนรอตำรวจมาจับ พบมีบัตรรักษาอาการป่วยจิตเวช จากกรณี กล้องวงจรปิดหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่หญิงรายหนึ่ง  ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมีทะเบียนชัดเจน ถือถุงบรรจุของเหลวภายหลังพบว่าคือน้ำมันเชื้อเพลิง นำมาเทหน้าทางเข้าแล้วจุดไฟ ก่อนที่จะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้หลบหนีไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สร้างความเสียหายไปบางส่วน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 26 มิ.ย. 67 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โกรธแค้นอะไร? สาวใหญ่ราดน้ำมันจุดไฟเผาหน้าธนาคาร) ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (27 มิ.ย. 67) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉวาง นครศรีธรรมราช เข้าสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ สภ.นาบอน และฝ่ายปกครอง พร้อมหมายศาลจังหวัดทุ่งสง พร้อมหมายค้นไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าจับกุม น.ส.อมรสุข อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงในคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ หลังจากก่อเหตุดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.อมรสุข ได้ถือมีดหลบอยู่ในห้องนอนของบ้านหลังดังกล่าว โดยได้ตามญาติมาช่วยพูดคุย และต้องปีนเข้าห้องเพื่อเจรจา แต่ในที่สุดก็สามารถเปิดประตูห้อง ก่อนจะบังคับให้ทิ้งมีดแล้วเข้าควบคุมตัวไว้ โดยที่ผู้ต้องหารายนี้มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่พูดหรือแสดงอาการใด ๆ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวแล้วจึงอ่านหมายจับกุมศาลจังหวัดทุ่งสงให้ฟังแสดงการจับกุมและแจ้งการถูกจับเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ รวมทั้งตรวจสอบชื่อบุคคล ปรากฎว่าผู้ต้องหาไม่ยอมพูดอะไร และยังได้ตรวจยึดเสื้อผ้าที่ใช้ในวันเกิดเหตุ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ขณะที่ญาติได้ยืนยันว่าเป็นบุคคลบคนเดียวกัน พร้อมทั้งผู้ต้องหารายนี้มีบัตรประจำตัวเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลสราญรมย์สุราษฎ์ธานี รักษาอาการป่วยทางด้านจิตเวชอยู่ด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมายัง สภ.ฉวาง เพื่อทำการสอบสวนในเบื้องต้นโดยให้พนักงานสอบสวนและตำรวจหญิงเข้าเจรจาพูดคุยสอบถามข้อมูล แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรเช่นเดิม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเข้าห้องควบคุม พ.ต.อ.ชาญยุทธ เรืองดิษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.ฉวาง นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนถึงบ้านพบเบื้องต้นว่ามีอาการผิดปกติทางจิต หลังจากนั้นได้รวบรวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานบุคคล และกล้องวงจรปิดจนกระทั่งได้ออกหมายจับแล้ว จึงย้อนกลับไปจับกุม และส่งไปให้แพทย์ตรวจความผิดปกติอาการทางจิตหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์นั้นพบว่ามีการเตรียมการ และพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้เป็นลูกค้า หรือมีภาระใด ๆ กับทางธนาคารมาก่อน ไม่เคยมีมูลเหตุเกี่ยวข้อง