ล่าข้ามอำเภอ! เยาวชนลักสายสื่อสาร ซิ่งหนีถีบรถตำรวจเจ็บ 3
วันที่ 25 มิ.ย. 2567 เวลา 14:40 น.
ตำรวจพระประแดง ไล่ล่าข้ามอำเภอ! 2 เยาวชนลักสายสื่อสาร ซิ่งหนีหลายสิบกิโลเมตร ก่อนถีบรถตำรวจ เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 แต่สุดท้ายไม่รอดโดนรวบทันควัน ภาพจากกล้องติดอกของสายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.พระประแดง ที่พบเห็น 2 เยาวชน กำลังก่อเหตุลักตัดสายสื่อสาร ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 66 หมู่ 19 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงแสดงตัวให้หยุดและจะเข้าจับกุม แต่ปรากฏว่าทั้งสองได้ขี่รถจักรยานยนต์ซิ่งหลบหนีการจับกุม จึงเปิดปฎิบัติการไล่ล่า โดยวิทยุเรียกกำลังเสริมจากสายตรวจที่ใกล้เคียงเข้าสนับสนุนสกัดจับ แต่ด้วยกฎหมายและสิทธิของผู้ต้องหา ทำให้ตำรวจไม่สามารถที่จะทำตามยุทธวิธี จึงใช้วิธีขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่าติดตามอย่างกระชั้นชิด เพื่อกดดันให้ยอมมอบตัว โดยปฏิบัติการไล่ล่า เป็นระยะทางไกลกว่า 10 กม. ข้ามอำเภอจากเขต อ.พระประแดง เข้าเขต อ.พระสมุทรเจดีย์ ใช้ถนนประชาอุทิศแล้ววนรถกลับวนไปมา มีบางช่วงที่ผู้ต้องหาที่ซ้อนท้ายรถมา จวนตัวจะถูกจับกุมจึงกระโดดลงจากรถหลังวิ่งหลบหนีแต่สุดท้ายไม่รอด ขณะที่ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับยังคนบิดรถหนีการล่าล่าจับกุม จนกระทั่งไปถึงช่วงหนึ่งของการหลบหนี ตำรวจสายตรวจที่ตามมาสมทบพยามเสกัดจับกุม แต่ถูกผู้ต้องหาใช้เท้าถีบจนรถล้มคว่ำกลางถนน แต่ก็ไม่ยอมหยุด สุดท้ายสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด แต่ก็มีตำรวจถึง 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ จากนั้น จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมของกลางมายัง สภ.พระประแดง โดยนายโต้ง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เป็นคนขับขี่ และนายทาม (นามสมมุติ) อายุ 16ปี เป็นคนซ้อนท้ายและเป็นคนแบกสายสื่อสาร ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ คือ ส.ต.ต.ทิชากร สุภะษร ผบ.หมู่ (ป.)สภ.พระประแดง ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าข้างขวาเย็บไป 3 เข็ม กางเกงจีบขาด ,ส.ต.ต.ฐิตพัฒน์ รวมพลังเอก ผล.หมู่ (ป.)สภ.พระประแดง ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าทั้งสองข้าง กางเกงฉีกขาด และส.ต.ต.เกียรติศักดิ์ พวยนอก ผบ.หมู่ (ป.)สภ.พระประแดง ได้รับบาดเจ็บที่มือขวาคล้ายถูกของแข็งปลายแหลมแทงจำนวน 1 แผล ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ตำรวจจึงแจ้งข้อหาทั้งคู่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนีหรือพาทรัพย์นั้นไป ,2. ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่และทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ และ 3.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น พร้อมกับยึดของกลาง รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คันคีมตัดสายไฟสีส้มจำนวน 1 ตัว ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นายโต้ง เผยว่า ได้ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ได้เงินมาก็จะนำไปซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยครั้งแรกนำไปขายได้ประมาณ 1,000 บาท ก่อเหตุกับรุ่นพี่และแบ่งเงินกันคนละครึ่ง ส่วนครั้งนี้ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 66 นำไปขายได้กิโลกรัมละ 240 บาท มากับเพื่อนใหม่ เพิ่งมาครั้งแรกและก็มาถูกจับกุม ด้าน ส.ต.ต.ฐิตพัฒน์ เผยว่า ตนเองได้ขับรถออกตรวจอยู่ในพื้นที่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 66 เจอผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์สวนทางกับเจ้าหน้าที่ โดยคนซ้อนได้สะพายกระเป๋าและพบสายสื่อสารโทรศัพท์ เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีอาการตกใจและโยนสายโทรศัพท์ทิ้งกับพื้นและทำการหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถจักรยานยนต์ไล่ตาม รถจักรยานยนต์สายตรวจจำนวน 2 คันบัดดี้กัน โดยระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไป ยังพื้นที่ของ อ.พระสมุทรเจดีย์ แต่คนซ้อนได้กระโดดลงจากรถจักรยานยนต์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ที่ เขต สภ.พระสมุทรเจดีย์ ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ได้หลบหนีไปต่อและควบคุมตัวได้ที่ เขตสน.ทุ่งครุ ระหว่างการติดตามจับกุมได้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาคนซ้อนได้หันมาถีบรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและพยายามเอามือดึงกุญแจและพยายามตีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นคนขับ จึงทำให้รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจล้ม ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าซ้ายและหัวเข่าขวาและฟกช้ำตามร่างกายเล็กน้อย ส่วนพี่บัดดี้ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาเย็บไป 3 เข็มส่วน พี่บัดดี้ โดนของมีคมแทงเข้าไปที่แขนซ้าย รวมทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดยไปกันทั้งหมดรถจักรยานยนต์สายตรวจ 2 คัน โดยไปเจอกันระหว่างทางพอดี ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าไปตัดสายสื่อสารโทรศัพท์มาภายในซอยสุขสวัสดิ์ 66 ซึ่งหลังจากก่อเหตุแล้วก็มาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำให้ตกใจจึงบิดรถจักรยานยนต์หลบหนี การไล่ล่าผู้ต้องหาในครั้งนี้ค่อนข้างที่จะยาวไกล หลังจากออกสุขสวัสดิ์ 66 และไป ทะลุที่ซอยประชาอุทิศ 69 และไปต่อถนนประชาอุทิศและขับรถจักรยานยนต์วนหนีไปต่อยังเขต อ.พระสมุทรเจดีย์ ขณะที่ปู่ ของนายทาม เผยว่า หลานเป็นคนเชื่อฟังแต่ติดเพื่อน หลานไม่ได้ติดน้ำกระท่อม แต่ตนเองก็ไม่เห็นด้วยกับการจำหน่ายน้ำกระท่อม เพราะมันไม่ดีกับเด็กวัยรุ่น เด็กนักเรียนยังกินเลย เอาไปโรงเรียนก็มี โดยใส่กระเป๋าไป ครูบางคนก็ไม่รู้เรื่อง ตนเองไม่อยากให้มีการจำหน่ายน้ำกระท่อมเลย อยากให้เป็นอะไรที่ผิดกฎหมายไป เพราะบางคนเอาไปใช้ถูกก็ถูก เอาไปใช้ผิดก็ผิด โดยตนเองไม่รู้มาก่อนเลยว่าหลานมาขโมยตัดสายไฟ หลานชายของตนเองนิสัยดี อยู่กับบ้านไม่ได้ออกไปไหน แต่หลังจากมาคบกับเพื่อน ก็ติดเพื่อน ส่วนน้ำกระท่อมหลานก็กินแต่หยุดไปพักนึงแล้ว ซึ่งตนเองก็ด่า ส่วนจุดที่มีการจำหน่ายน้ำกระท่อม ตนมองว่า เป็นจุดบอด ต้มที่บ้านแล้วก็ง่ายและสะดวกโดยการไปซื้อเอา แล้วก็มีตัวยาชนิดอื่นผสมซึ่งทำให้เด็กมีปัญหา อาจจะทำให้เด็กไม่เกรงกลัวเลย เวลากินแล้วอาจจะนิสัยเปลี่ยน ซึ่งเมื่อก่อนนิสัยดีพ่อแม่ไม่เคยเถียง เดี๋ยวนี้ก็มีปากเสียง