ชุลมุนศึกแย่งศพ ระหว่างเมียที่อยู่กินกันมากว่า 30 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กับลูกสาวผู้เสียชีวิต
วันที่ 24 มิ.ย. 2567 เวลา 07:20 น.
ชุลมุนศึกแย่งศพ ระหว่างเมียที่อยู่กินกันมากว่า 30 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กับลูกสาวผู้เสียชีวิต ขณะที่ ผู้เสียชีวิต บันทึกคลิปสั่งเสีย หากตายให้ทำพิธีที่ จ.ปราจีนบุรี ด้านลูกสาว อยากนำร่างพ่อกลับไปทำพิธีที่ลพบุรี เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เกิดเหตุชาวบ้านเปิดศึกแย่งศพกันระหว่างลูกสาวของผู้เสียชีวิตกับ ภรรยา(ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) ท่ามกลางสายตาชาวบ้านจำนวนมากที่มางานศพ จากการลงพื้นที่ บริเวณศาลาวัดที่ได้ทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นายสาย อายุ 67 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่บ้านพักเมื่อช่วงเช้าวานนี้ 23 มิ.ย.67 ญาติพี่น้องรวมทั้งชาวบ้านมาร่วมงาน จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปที่วัด เพื่อประกอบทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ตามที่นายสาย ผู้เสียชีวิตสั่งเสียไว้ ว่า ให้ทำพิธีที่วัดแห่งนี้ ต่อมา ได้มีลูกสาวผู้ตายทั้ง 3 คน เดินทางมาถึงที่วัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อจะขอนำศพของพ่อไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดลพบุรี ส่วนทางญาติพี่น้องรวมทั้งภรรยา(ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)ไม่ยอมให้ศพไปที่จังหวัดลพบุรี เนื่องจากผู้ตายได้สั่งเสียให้นำศพมาไว้ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งมีคลิปเสียงของผู้ตายบันทึกไว้ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน จนเกิดการโต้เถียงการชุลมุนกันขึ้นทางชาวบ้านต้องเป็นกรรมการห้ามมวยอยู่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าหย่าศึกชิงศพพร้อมชี้แจงในข้อกฎหมายให้ทั้งฝ่ายเข้าใจ ในที่สุดทางญาติพร้อมภรรยา(ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)ก่อนที่ลูกสาวผู้เสียชีวิตนำศพพ่อไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งคลิปเสียงที่ญาติพี่น้องได้บันทึกไว้ก่อนที่ นายสาย จะเสียชีวิต ได้บอกว่า “ไม่ไปหรอกเพราะญาติพี่น้องอยู่นี่ไม่ไปหรอก ส่วนไอ้หนูนั้นมันเป็นทหาร (ลูกสาว) ถ้าไปญาติพี่น้องที่ไหนจะตามไป เพราะแนวลูกยังหวังดีจะทำให้พ่ออยู่ เพราะทหารเขามีหน้ามีตา ที่นี่โคตรเหงามันอยู่ที่นี่ต้องทำอยู่นี่ เขาจะได้นอนศาลาได้อย่าถือทิตฐิกันลูกเอ้ย พ่อตายตาหลับไม่อยากคิดมาก พี่น้องพ่อเขาดีทุกคนเขาให้กินทุกปีเขาไม่เข้าใจหรอก พูดไปจะเป็นขี้ปากสังคมถ้าพ่อตาย เพราะพ่อแม่ของพ่ออยู่ที่นี่ ส่วนศพเอาไว้ 2 คืน พี่น้องพี่เขาก็ช่วยเหลือพ่อ พ่อตายให้อยู่วัดที่นี่ ที่ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นางนา อายุ 45 ปี ลูกสาวคนโต กล่าวว่า หนูเป็นคนรักษาพ่อมาตลอด เมื่อแกเสียหนูจะเอาแกไปทำพิธีที่ลพบุรี เพราะหนูพี่น้องทั้ง 3 คนทำงานอยู่ที่นั่นกัน แต่ทางญาติพี่น้องจะแย่งไว้เพื่ออะไรหนูก็ไม่รู้ เพราะเขาอยู่กับเมียใหม่ แต่การรักษาหนูรักษาพ่อมาตลอด มีบิลค่ารักษาตลอด เขาคิดว่าตนเองมีเงินประกัน เพราะประกันตนเองทำให้พ่อ ทำงานรับราชการทหาร ตนเองก็พูดกับเขามาตลอดมาอย่างนี้ เขามากลับคำไม่ได้ ส่วนนาง สำ อายุ 60 ปี ภรรยา(ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) เผย ผู้เสียชีวิตและตนเอง อยู่กินกันมากว่า 30 ปี ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกัน กล่าวว่า ตอนแกป่วยหนัก เขาก็ไม่ได้เอาไป ก็ดูแลกันมาจนหมดคามือตอน 2 โมงเช้า สามีตระกูลเขาอยู่นี่หมด และได้สั่งเสียไว้ว่าถ้าฉันเสียก็เอาไว้นี่นะ ก่อนเสียชีวิตได้ดูแลกันมาตลอด ด้าน นางดวน อายุ 65 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายล้มป่วยมาเป็นปีลูกไม่เคยมาดูแลแกเลย สุดท้ายพอพ่อเสียลูกจะเอาศพไปทำ ตอนป่วยทำไมไม่มาเยี่ยมพ่อเอาไปรักษา ต้องให้ทุเรศทุรังเหมือนกับหมา พอญาติจะเอามาบำเพ็ญกุศลเขาบอกว่า เขาอยากจะได้พ่อเขาไปที่กรมทหาร ญาติก็ไม่ได้ติดใจคือลูกเขาจะเอาไปก็ให้เขาเอาไป เพราะฉันเป็นน้องสาวฉันไม่มีสิทธิ์ แต่ฉันจะทำให้พี่ฉันก็ทำได้ ลูกเขาบอกว่ามีสิทธิ์ก็เขาเอาไปทำพิธีให้พี่ชาย ผู้ตายได้สั่งเสียญาติทุกคน ไว้ถ้าพี่ตายอย่าให้ลูกของพี่เอาไปนะพ่อแม่บ้านเกิดเมืองนอนอยู่นี่