โจรกรรมเรือ 3 ลำ เหมือนตำรวจถูกตบหน้า
วันที่ 18 มิ.ย. 2567 เวลา 19:50 น.
“บิ๊กเต่า” ชี้ ลักเรือ 3 ลำเหมือนตำรวจถูกตบหน้าอย่างแรง เผยไต้ก๋งเรือให้การเป็นประโยชน์ แต่อุบ! ตอบเชื่อมถึงเสี่ย จ. เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน มากน้อยเพียงใด ยันหากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีไม่เว้น วันนี้ ( 18 มิ.ย.67 ) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย ตำรวจน้ำชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และส่วนที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้ากรณีจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ พร้อมลูกเรืออีก 8 คน โดยตั้งแต่เมื่อวาน จนกระทั่งจนถึงเที่ยงของวันนี้ เจ้าหน้าที่เร่งสอบปากคำไต้ก๋งเรือ 3 คน เบื้องต้นให้การตรงกันว่า ได้รับคำสั่งจากเจ้าของเรือ ให้นำเรือออกจากฝั่ง โดยไต้ก๋งของเรือ เจพีใช้ GPS สำรองที่แอบไว้ใต้เตียง มาใช้เพื่อนำทาง ตามด้วยเรือดาวรุ่ง เป็นลำที่ 2 และเรือกำไรเงิน เป็นลำสุดท้าย หลังจากทอดสมอเรือขนถ่ายน้ำมันที่กัมพูชา ได้ส่งคนขึ้นเรือขนาดใหญ่ไปด้วย 7 คน หลังจากถูกกดดัน โดยสั่งการให้ลูกเรือมุ่งหน้าไปทางใต้ มุ่งหน้าในเขตปัตตานี ไปยังน่านน้ำพิเศษ EECZ หรือ เขตน่านน้ำพิเศษ ไทย-เขมร-เวียดนาม เมื่อมาถึงจุดที่จับเรือได้ ปรากกฎว่ามีเรือลำหนึ่งเสียไม่สามารถไปต่อได้ โดยช่วงที่วิ่งกลับมา 200 กิโลจากน่านน้ำกัมพูชา กำลังจะเข้าสู่น่านน้ำมาเลเซีย ทำให้เรือลำหนึ่งเสีย ยืนยัน ไม่ได้แต่งเรื่องให้ดูน่าเชื่อ แต่เป็นกระบวนการสืบสวนโดยกองปราบซึ่งทำงานทุกมิติ หากใครเกี่ยวข้องมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือ ยืนยันดำเนินการถึงที่สุด บิ๊กเต่า กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังถูกตบหน้าอย่างแรง ที่เรือ 3 ลำขนาดใหญ่หายไป วิงวอนขอให้แจ้งข่าว จะดำเนินการเอาผิดกับทุกคนโดยไม่มีการละเว้น และการกระทำผิดทุกอย่าง ต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยในกรณีแรก ถ้าไม่ได้ของกลางกลับมาเลย ต้องฟ้องเพ่งกับเจ้าหน้าที่ที่บกพร่อง กรณีที่ 2 ได้ของกลางกลับมา แต่ไม่ครบ เจ้าหน้าที่ต้องฟ้องเพ่งกับลูกเรือที่เอาน้ำมันถ่ายออกจากเรือ อีกส่วนหนึ่งต้องฟ้องเพ่งร่วมไปด้วย กรณีเจ้าหน้าที่ทำให้เสียหาย หรือมีส่วนร่วม ยืนยันเอาผิดไม่ละเว้น ส่วนของกลางเรือทั้ง 3 ลำ จะตรวจสอบดำเนินคดี โดยให้ศุลกากรเข้ามาตรวจสอบและประเมินราคา และทำการตรวจยึด จากนี้จะดำเนินการดูแลควบคุมดูแลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และจะมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกันอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการรัดกุมไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเหมือนกรณีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบน้ำมัน เป็นชนิดดีเซลสีเหลือง มีค่าไบโอดีเซลเท่ากับศูนย์ และน้ำมันที่เก็บไปจากเรือกำไรเงิน มีค่ากำมะถันเกินกว่ามาตรฐานที่กลุ่มธุรกิจพลังงานกำหนด ส่วนน้ำมันที่เก็บได้จากเรือเจพี เป็นน้ำมันชนิดเดียวกันแต่ค่ายังอยู่ในมาตรฐาน ส่วนปริมาณจะเหลือเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ และจะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกันกับที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น ต้องนำตัวอย่างไปตรวจสอบและเปรียบเทียบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 20.00 น.ของวันนี้ จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหา ขึ้นเครื่องบินตำรวจ เพื่อไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองปราบปรามกรุงเทพฯ และดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้ง ส่วนกรณีการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเอี่ยวด้วยหรือไม่นั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายใน 7 วัน หากมีความคืบหน้าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป